‘รมว.พาณิชย์’ ชวน ‘ผปก.เล็ก-ใหญ่’ ใช้บริการศูนย์ OSS@Ratchada ยัน! ‘เป็นที่พึ่งรับมือ ภาษีทรัมป์’

“จตุพร” ตรวจความพร้อมศูนย์ MOC One Stop Service @Ratchada ระดม 12 หน่วย ทั้งภายในและภายนอก ลั่น! พร้อมเป็นที่พึ่งผู้ประกอบการไทย รับมือ “ภาษีทรัมป์” เผย! ขอรับบริการผ่าน 2 ช่องทาง “ Walk-in รับบริการหน้าเคาน์เตอร์ – โทรศัพท์ ผ่านสายด่วนส่งออก 1169 หรือ 02-513-1909”

วันนี้ (7 สิงหาคม 2568) ณ อาคารกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถนนรัชดาภิเษก, นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน เปิดตัวศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จของกระทรวงพาณิชย์ (MOC One Stop Service : OSS) @Ratchada โดยมี ผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการ เข้าร่วมงานฯ
สำหรับ ศูนย์ MOC OSS @Ratchada ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย “พาณิชย์พึ่งได้” ที่มุ่งให้กระทรวงพาณิชย์เป็นที่พึ่งของผู้ประกอบการไทยในทุกระดับ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเผชิญความไม่แน่นอน และการค้าระหว่างประเทศถูกกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้ารูปแบบใหม่ เช่น ภาษีของสหรัฐฯ

“วันนี้ผมมาที่ ศูนย์ MOC OSS @Ratchada ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เราเตรียมไว้เพื่อบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้า ให้สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการได้แบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษาเรื่องภาษี การเยียวยา การขอข้อมูล รวมถึงช่องทางช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสทางการค้า” นายจตุพร กล่าวและว่า…
ในภาวะที่สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ 19% ที่จะเริ่มมีผล ดังนั้น การมีศูนย์ OSS ที่สามารถให้คำตอบและคำแนะนำได้อย่างรวดเร็วจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับภาคธุรกิจ

“ที่ผ่านมาเราใช้สายด่วน 1169 เป็นหลัก ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ ศูนย์ OSS จึงเข้ามาเติมเต็มให้ประชาชนที่มีคำถามสามารถ Walk-in เข้ามาปรึกษาได้ทันที โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำทุกวัน และกำลังพิจารณาเปิดบริการในวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย เพื่อรองรับความต้องการให้ครอบคลุมมากที่สุด” รมว.พาณิชย์ ย้ำ
โดยขณะนี้ศูนย์บริการฯ มี 2 ช่องทาง ได้แก่…
• Walk-in รับบริการหน้าเคาน์เตอร์
• โทรศัพท์ ผ่านสายด่วนส่งออก 1169 หรือ 02-513-1909

สำหรับ หน่วยงานที่เข้าร่วมให้บริการ 12 หน่วยงาน ประกอบด้วย 8 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กรมการค้าต่างประเทศ (DFT) กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (DTN) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP) กรมการค้าภายใน (DIT) สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (TPSO) และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD และ อีก 4 หน่วยงานภายนอก ได้แก่ หอการค้าไทย สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กรมศุลกากร และ EXIM Bank
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังเตรียมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรฯ สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า และสมาคม SMEs ให้เข้าร่วมให้บริการด้วย
“เราจะทำให้ศูนย์นี้เป็นที่พึ่งของประชาชนและผู้ประกอบการอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะรายย่อย SMEs หรือรายใหญ่ หากมีปัญหาเรื่องการส่งออก ภาษี หรือการเปิดตลาดใหม่ ก็สามารถมาที่นี่ได้ ศูนย์นี้จะอธิบายทุกขั้นตอนให้เข้าใจง่าย และจะช่วยลดอุปสรรค เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดโลก” นายจตุพร กล่าวและย้ำว่า…
รัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ประกอบการอย่างจริงจัง โดยเตรียมมาตรการรองรับภาษีทรัมป์ไว้แล้ว ทั้งในด้านข้อมูล การลดต้นทุน และการหาตลาดใหม่ ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการเจรจากับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุปเชิงนโยบาย โดยรักษาการนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ก็ได้หารือเรื่องงบประมาณสำหรับการเยียวยาไว้เบื้องต้นแล้ว
“หากศูนย์นี้มีความพร้อม ผมจะขอเรียนเชิญท่านรักษาการนายกรัฐมนตรีมาเปิดศูนย์ด้วยตนเอง รัฐบาลมุ่มมั่นยืนเคียงข้างผู้ประกอบการทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นรายเล็ก รายใหญ่ หรือเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการค้าโลก” นายจตุพร กล่าวในที่สุด.