กกต. เตือนสื่อ! ตรวจสอบความจริงก่อนเผยแพร่

กกต.แจงยังไม่ถึงขั้นตอนสรุปฟ้อง “คดี สว.ฮั้ว” ยังอยู่ในขั้นที่ 1 แถมอนุฯ 26 ขอขยายเวลาพิจารณาถึง 17 ก.ค. อย่าสร้างกระแส มีอีก 4 ขั้นตอน เตือนสื่อเช็คข้อเท็จจริงก่อนออกข่าว เลิกปล่อยข่าวลือ อีกนานกว่าจะถึงมือ กกต.ชุดใหญ่
ท่ามกลางสถานการณ์ “ต่างเอาคืน” ในทางการเมือง!…
เรื่องหนึ่งที่อยู่บนความสนใจของคนไทยมากที่สุด! คงไม่พ้นปม “ฮั้ว สว.” ที่ขยายวงกว้าง…กระทบทุกฝ่าย! ทั้ง กลุ่มเปิดโปง (ว่าที่ สว./ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย), กลุ่มตรวจสอบ (ดีเอสไอ/กระทรวงยุติธรรม/รัฐบาล) กลุ่มถูกตรวจสอบ (สว.สายฮั้ว) และ กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลัง…การฮั้วครั้งมโหฬารของการเมืองไทย
ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (สำนักงาน กกต.) ได้ออกหนังสือ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (12 ก.ค.2568) ชี้แจง กรณีสื่อมวลชนรายงานข่าว “คดีฮั้ว สว. เสนอคณะกรรมการการเลือกตั้ง ชุดใหญ่ พิจารณาในวันที่ 14 กรกฎาคม 2568” ไม่เป็นความจริง!!!
ทั้งหนังสือชี้แจงดังกล่าวระบุว่า…หลังมีข่าว คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 เตรียมเสนอสำนวนเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหญ่ เพื่อฟ้องผู้เกี่ยวข้องกับคดีฮั้วการเลือกสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 229 ราย ในวันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคมนี้ ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยสำนวนดังกล่าว ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ 1 ชั้นคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 ที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และระยะเวลาที่ขยาย ซึ่งจะครบกำหนดการขอขยายระยะเวลาในวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 สำนวนดังกล่าวจึงยังไม่ได้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
การพิจารณาสำนวนตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2566 มีขั้นตอนการพิจารณาออกเป็น 4 ชั้น ดังนี้
ชั้นที่ 1 เมื่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ได้รับสำนวนแล้ว ให้ดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวนและจัดทำความเห็น เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ให้จัดส่งสำนวนไปยังสำนักงาน กกต.ส่วนกลางโดยเร็ว
ชั้นที่ 2 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ส่วนกลาง) ได้รับสำนวนแล้ว ให้พนักงานสืบสวนและไต่สวนผู้รับผิดชอบสำนวนดำเนินการวิเคราะห์สำนวนและจัดทำความเห็นเสนอผ่านผู้อำนวยการฝ่าย รองผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการสำนัก และเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (รองเลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้งที่ได้รับมอบหมาย)
ชั้นที่ 3 คณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง เมื่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งได้พิจารณาแล้วจะทำความเห็น และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอสำนวน ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา
ชั้นที่ 4 คณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับสำนวนจากคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งแล้ว ต้องพิจารณาชี้ขาดหรือสั่งการโดยเร็ว
ทั้งนี้ เมื่อคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 ได้รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จแล้ว ต้องเสนอสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อดำเนินการต่อไป คือ ชั้นที่ 2 ดังนั้น สำนักงาน กกต. จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนและผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ก่อนเผยแพร่ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพื่อป้องกันความสับสนของประชาชน.