ศีลเสมอกัน!!??

พฤติการณ์ของ “ฮุน เซน” ที่มักจะลากเอาไทยไป “ตบกลางสี่แยก” ในทุกๆ ครั้งที่ต้องการสร้างคะแนนนิยมกับคนกัมพูชา มิต่างจากคน “ทุศีล” ไม่ควรที่คนดี…มีศีลธรรมจะคบค้าสมาคมแต่อย่างใด? หากจะมีใคร…คบค้ากับ “2 พ่อลูกตระกูลฮุน”ในระดับ พี่น้อง ญาติสนิท หรือ “คนร่วมครอบครัว” แสดงว่าพวกเขามี “ศีลเสมอกัน”
คนไทยมักเรียกขานเขาว่า…นายฮุน เซน แต่หากเป็น “คนกัมพูชา” ถ้าไม่เรียกขาน เชิงยกย่องว่า…สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน อาจถึงต้อง “ติดคุก…ติดตาราง” เอาได้!!!
นายฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ผู้นำประเทศ” ที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดคนหนึ่งของโลก (ราว 25 ปี) ปัจจุบัน ทำหน้าที่เป็น “ประธานวุฒิสภา” และ “ประธานองคมนตรี” ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็น “ผู้นำจิตวิญญาณ” ที่ชาวกัมพูชา ต่างให้ความเคารพ ศรัทธา และเชื่อมั่น จนบางครั้ง…อาจสูงกว่า…ผู้เป็น “ประมุข” ของแผ่นดิน ด้วยซ้ำไป…
แม้วันนี้…ชาวกัมพูชา บางส่วนเริ่มมอง นายฮุน เซน ต่างไปจากวันวาน สอดรับ ชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ทั้งที่เป็นและไม่เป็นเครือข่ายของ “ผู้นำฝ่ายค้าน” อย่าง…นายสม รังสี ที่ปัจจุบัน “หนีตาย” จาก “อำนาจมืด” ไปอาศัยอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ต่างเริ่มมองเห็นว่า…นายฮุน เซน คือ อาจเป็น…ตัวปัญหาของประเทศ!!!
ตลอดระยะเวลาที่ปกครองกัมพูชา กล่าวว่า ประเทศนี้…ไม่เพียงขาดการพัฒนา ประชาชนยังขาดโอกาสที่ดี ทั้งในด้านการศึกษาและการจะเลือกใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ ยิ่งเรื่องความเป็น “ประชาธิปไตย” ด้วยแล้ว พูดได้ว่า…ประเทศนี้ แทบไม่มี แม้ชื่อการปกครองภายนอก…จะดูเหมือนเป็น “ประชาธิปไตย” แต่ความเป็นจริงแล้ว มันมิต่างจาก “รัฐเผด็จการ” แต่อย่างใด
เพราะหากใครก็ตาม…ที่เห็นต่าง หรือคัดค้านในสิ่งที่เขาทำ ส่วนใหญ่ต้องมีอันเป็นไป! ถึงขั้น…ต้องย้ายหนีไปอยู่ในต่างแดน หรือไม่…ก็ต้องไปนอนคุยอยู่กับรากมะม่วง
เรื่องนี้…คนกัมพูชาในต่างประเทศ และคนทั่วโลก ต่างรู้กันดี!
ในขณะที่ นายฮุน เซน และครอบครัว อยู่ดี…มีสุข มีข้าวปลาอาหาร ของกิน ของใช้ และเครื่องอำนวยความสะดวกยุคใหม่ คอยให้บริการพร้อมสรรพ อยู่ในคฤหาสน์หลังมหึมา…ราคานับพันล้านบาท ทว่า ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ ยังคงยากจน และไร้ที่อยู่ หรือที่อยู่ที่มี…ก็ไม่ต่างจากรังหนู ลำพังแค่อาหารการกิน มีให้กินครบทุกมื้อ…ยังยากลำบาก
กองพันทหารองครักษ์ส่วนตัว BHQ ที่ว่าเป็น “หน่วยรบสุดโหด” สุดๆ แห่ง กองทัพกัมพูชา ซึ่งคอยดูแลความปลอดภัยให้กับ นายฮุน เซน และครอบครัว ไม่เพียงมีเครื่องแต่งกายทหารที่ดูน่าเกรงขาม พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสังหารครบครัน มีข้าวปลาอาหารและที่พักอาศัยระดับเริ่ดหรู แถมยังได้รับเงินเดือนและผลตอบแทนอื่นๆ (เบี้ยเลี้ยง) ในอัตราที่สูง
แตกต่างจาก ทหารกัมพูชาส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ กองทหารที่อยู่แนวหน้า บริเวณชายแดนที่กำลังมีปัญหาข้อพิพาทอยู่กับฝ่ายไทย
ทหารของชาติเหล่านั้น เกือบทั้งหมด…ต่างอยู่ในชุดทหารเก่าๆ กับรองเท้าผ้าใบขาดๆ อาหารการกินและชีวิตความเป็นอยู่ ก็ค่อนข้างลำบากและอัตคัด ยิ่งเงินเดือนและผลตอบแทนที่ได้รับด้วยแล้ว ไม่เพียงไม่ได้รับในๆ ทุกเดือน แต่ยังได้รับในอัตราที่น้อยมากๆ จนแทบไม่พอกิน
หลายคนต้องรวมเงินกันเพื่อนำไปซื้อตุนข้าวปลาอาหาร เครื่องกระป๋อง บะหมี่สำเร็จรูป รวมถึงบรรดาเครื่องปรุงและสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น เพราะไม่ให้ต้องอดตายคาสนามรบ!
ระหว่าง…ชีวิตความเป็นอยู่ของนายฮุน เซน และครอบครัว “ฮุน” รวมถึงเครือญาติและกลุ่มตระกูลคนสนิทชิดใกล้ กับประชาชนชาวกัมพูชาส่วนใหญ่
และระหว่าง…กองพันทหารส่วนตัวของนายฮุน เซน กับกองทหารที่เป็น “รั้วของชาติ”
ดูช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ราว…“ฟ้าสูงกับเหวลึก!”
พฤติกรรมของ นายฮุน เซน ในช่วงที่ผ่านมา มักแสดงออกในเชิงกร้าวร้าว! มิต่างจาก “ผู้นำเผด็จการ” และยิ่งเป็นช่วง ใกล้หาเสียงเลือกตั้ง หรือยามที่ “กระแสความนิยม” ในตัวของเขาและครอบครัว “ตกต่ำ” โดยเฉพาะห้วงที่ ประเทศชาติและประชาชน เริ่มสัมผัสได้กับปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องที่แร้นแค้น ก็มักจะหาเหตุ…ทะเลาะวิวาทกับประเทศเพื่อนบ้าน
ประเทศไทย คือ “ตัวเลือกอันดับต้นๆ” ที่ นายฮุน เซน เลือกจะลากมาตบ “กลางสี่แยก” มากที่สุด! นั่นเพราะ ฝ่ายไทย…เลือกจะใช้นโยบายประนีประนอม มากกว่าจะใช้กลวิธีที่ก้าวร้าวและรุนแรง เหมือนกับ สปป.ลาวและเวียดนาม 2 ประเทศที่มีพรมแดนติดกัน
ล่าสุด กับ…ปัญหาวิวาทะกับฝ่ายไทย มีนักวิเคราะห์ทั้งในไทยและต่างประเทศ วิเคราะห์ในทิศทางสอดรับกัน กล่าวคือ มี 2 เหตุผลสำคัญ…
ข้อที่ 1.กระแสความนิยม ในตัว ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลดลงอย่างฮวบฮาบ จำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการพิเศษบางอย่าง? จึงนำไปสู่ข้อที่ 2. ลากประเทศไทยมาตบ “กลางสี่แยก” ซึ่งเป็นแผนที่เคยใช้และใช้ได้ผลมาตลอด ทว่ารอบนี้…เสมือนเป็นการ “ยิงปืนนัดเดียว ได้นก 3 ตัว”
นกตัวที่ 1 – ดึงความสนใจของชาวกัมพูชา ให้หันมา “โฟกัส” เฉพาะกับเกมการเมืองระหว่างประเทศ กับข้อกล่าวหา “ไทยบุกรุกดินแดน – ฆ่าทหารกัมพูชา” ทำเอาชาวกัมพูชา ลืมไปเลยว่า…วันนี้ ภาพลักษณ์และเศรษฐกิจของประเทศ กำลังตกต่ำดำดิ่ง! อย่างที่สุด แค่ไหน?
นกตัวที่ 2 – การเรียกร้องดินแดนในหลายๆ จุดคืนจากไทย ไม่ว่าจะด้วยการเจรจาระหว่าง การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา (Joint Boundary Commission : JBC) ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.2568) ณ กรุงพนมเปญ หรือถึงขั้นต้องไปคุยกันใน ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (Cour internationale de justic : ICJ) แม้กระทั่ง ใน เวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพราะไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ? จะได้ดินแดนคืนหรือไม่? แค่นี้…ก็ได้ใจชาวกัมพูชา จนหลงลืมปัญหาที่แท้จริงของประเทศตัวเองแล้ว
และ นกตัวที่ 3 – หากกัมพูชาได้คืนดินแดนจากไทย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนไหน? สิ่งนี้…อาจขยายผลจากผืนดินบนบก ลากยาวลงทะเล ซึ่งนั่นคือ เป้าหมายสำคัญที่สุดของ “2 พ่อลูกตระกูลฮุน” และ รัฐบาลกัมพูชา เพราะโอกาสจะได้ครอบครองบางส่วนของพื้นที่ในเกาะกูด จ.ตราด ของไทย ก็ย่อมมีสูง! และนั่นจะนำมาซึ่ง การมีพื้นที่ทางทะเลเพิ่มขึ้น และได้รับส่วนแบ่งของทรัพยากร ทั้งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่ฝังอยู่ในอ่าวไทย จำนวนมหาศาล
ก็อย่าแปลกใจ! ที่เหตุใด? “2 พ่อลูกตระกูลฮุน” และรัฐบาลกัมพูชา รวมถึงกองทัพกัมพูชา จะ “เดินหน้า” เอาจริงเอาจังกับประเทศไทยในเรื่องนี้
ระหว่างที่ รัฐบาลไทย และกระทรวงการต่างประเทศของไทย ในยุค “นายกฯคุณหนูฝึกงาน” ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวเน็ตในโลกออนไลน์ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกขานเอากับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ที่มักจะดำเนินการใดๆ ในลักษณะ…ไม่ค่อยจะทันเกมของ “2 พ่อลูกตระกูลฮุน” และรัฐบาลกัมพูชา นัก
เรียกว่า…ช้ากว่าเขาสัก 1-2 ก้าวอยู่เสมอ
หากไม่มี…กองทัพไทย กองทัพบก และกองทัพภาคที่ 2 ที่คอย “ทัดทาน” กลเกมการเมืองระหว่างประเทศจาก “2 พ่อลูกตระกูลฮุน” และรัฐบาลกัมพูชา ได้ชนิด…เอาอยู่! แล้วล่ะก็
ไม่รู้เหมือนกัน…ป่านนี้ โอกาสของประเทศไทยในมือของ “นายกฯแพทองธาร” จะเสียหายไปมากมายสักเพียงใด?
กับ มาตรการจากเบาไปหาหนัก เริ่มจาก…คุมเกมการ “เปิด-ปิดด่านชายแดน” ที่แม้จะสร้างแรงกดดันและเพิ่มอำนาจการต่อรอง ก่อนถึงวันที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะได้พูดคุยหาทางออกใน เวที JBC แต่กลายเป็นว่า…นายกฯไทย กลับเกือบจะทำให้เสียเรื่อง! จู่ๆ จะให้ฝ่ายไทย ปรับเวลาให้สอดรับกับฝ่ายกัมพูชา จนสร้างเสียงก่นด่ากันทั่วเมือง ประมาณว่า…เลิกมาตการ “เปิด-ปิดด่านชายแดน” ไปเลยดีกว่าไหม?
ล่าสุด สดๆ ร้อนๆ ที่ฝั่งกัมพูชา โดย นายฮุน เซน และ นายฮุน มาเนต สะท้อนออกมาในทิศทางเดียวกัน และเป็นทิศทางที่ “รัฐบาลกัมพูชา” ได้สื่อสารถึงประชาชนชาวกัมพูชาและ ฝากมายังรัฐบาลไทย ทำนอง…
ไม่รอให้ฝ่ายไทย…เป็นคน “จะตัดไฟ…ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต” แต่ได้ประกาศให้ได้ชัดๆ ว่า…ห้ามไฟฟ้า และสัญญาณอินเตอร์เน็ตจากฝั่งไทยเข้าไปในฝั่งกัมพูชาในทันที! แล้วยัง ห้ามสถานีโทรทัศน์ของกัมพูชา นำเสนอละครไทย ภาพยนตร์ไทย และเพลงไทย รวมถึง สั่งห้ามนำสินค้าไทยเข้าไปขายในดินแดนกัมพูชา
แถมยังโยนให้ฝ่ายไทย…กล้าๆ ไล่ “แรงงานชาวกัมพูชา” ออกนอกประเทศมาเร็วๆ แล้วจะได้รู้กันว่า…เศรษฐกิจไทยที่พึงพิงและพึ่งพาแรงงานกัมพูชานั้น เมื่อไม่มีพวกเขา…จะก่อเกิดเป็นความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของไทยมากน้อยแค่ไหน? เพียงใด?
มองแบบคนนอก…ก็ต้องยอมรับว่า “เกมนี้” ของ “2 พ่อลูกตระกูลฮุน” จัดว่า…ได้ผลชะงักดีนักแล เพราะทำเอาฝ่ายไทย…แทบไปต่อไม่เป็น!!!
ที่เคย ขู่ฟ่อดๆ ว่า…ฝ่ายไทย “จะตัดไฟ…ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต” หากทางกัมพูชาไม่ยอมเจรจากันดีๆ นั้น วันนี้…แทบไม่เหลือเครื่องมืออะไรอีกแล้ว เพราะฝั่งกัมพูชา หาทางแก้ไข…อาการ “เห่าแต่ไม่กัด” ของฝ่ายไทยได้แล้ว
หากจะ เหลือทางออก…และรัฐบาลไทยกล้าหาญพอที่จะทำ ก็ยังมีอีก 3 หนทางให้ได้เลือกทำ กล่าวคือ…
1.ปิดด่านชายแดนให้หมด ปิดจริงๆ ห้ามทั้งคนและสิ่งของ (สินค้า) ไม่ใช่แค่การ “เปิด-ปิด” เป็นเวลาอีกต่อไป
2.ใช้เหตุผลที่ว่า…ดินแดนกัมพูชา คือ แหล่งพนันออนไลน์และแห่งสแกมเมอร์ หรือการหลอกลวงออนไลน์ระดับโลก ทำการหลอกลวงเงินของคนจากทั่วทุกมุมโลก ปีละหลายแสนล้านบาท จำเป็นที่ “กองทัพของนานาชาติ” และกองทัพไทย จะต้องบุกไปทำลายล้างให้สิ้นซาก แบบฉับพลันและทันที!
และ 3.ทวงคืนดินแดนที่ฝรั่งเศส ยึดไปจากไทย แล้วเอาไปประเคนให้กับกัมพูชา กลับคืนมา โดยเฉพาะพื้นที่ จ.เสียมราฐ พระตะบอง และศรีโสภณ รวมถึง จ.ประจันตคีรีเขตร หรือ “เกาะกง” เอาคืนมาเป็นของไทยให้หมด!
วันนี้…ประเทศกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชา ผู้นำกัมพูชา โดยเฉพาะ “2 พ่อลูกตระกูลฮุน” ไม่มีคุณค่าใดๆ ให้ทางฝั่งไทย จะคบค้าสมาคม ทั้งในฐานะ “ส่วนตัว – ครอบครัว” และในฐานะ “ประเทศเพื่อนบ้าน” ได้อีกต่อไป…
ประเทศนี้…เป็นได้แค่ “ประเทศข้างบ้าน” ที่จำต้องอยู่กันไป เพราะย้ายหนีจากกันไม่ได้!!! และเมื่อต้องอยู่บ้านใกล้ชิดติดกัน ก็ต้องคบค้ากันในแบบ “คนข้างบ้าน” หาได้จำเป็นจะต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ฉันมิตรสหายกันอีกต่อไป
คนอย่าง… นายฮุน เซน และ นายฮุน มาเน็ต “ไม่มีคุณค่าใดๆ” พอจะให้คบค้าสมาคมได้อีก
คนพรรค์นี้…ใครที่คบได้ คงต้องเป็นคนจำพวกที่มี “ศีลเสมอกัน” เท่านั้น!!!
อยากเป็นพวกที่มี “ศีลเสมอกัน” กับ “2 พ่อลูกตระกูลฮุน” หรืออย่างไร???.