นายกฯขีดเส้น 90 วันหาความจริง มอบ ‘4 สถาบัน – กรมโยธาฯ’ สร้างโมเดลจำลองตึก สตง.ถล่ม!

“นายกฯแพทองธาร” ลั่น! ทุกฝ่ายตั้งข้อสังสัยปมตึก สตง.ถล่ม! พร้อมดึง คณะวิศวะ 4 สถาบัน + กรมโยธาธิการ เร่งสอบหาข้อเท็จจริง ผ่านโมเดลจำลองเหตุการณ์ เผย! อีก 90 วัน น่าจะได้ข้อเท็จจริง มั่นใจ! กฎหมายควบคุมก่อสร้างอาคาร เอาอยู่แผ่นดินไหว หากสั่นในระดับเดิม เชื่อไม่มีตึกถล่มแน่!

ช่วงเช้าวันนี้ (8 เม.ย.2568) ก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริง อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ทุกฝ่ายมารวมตัวและช่วยกัน จำเป็นจะต้องอัพเดตต่อจากเหตุตึกถล่มเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว หลังครบ 7 วัน จากการที่ได้ไปที่เกิดเหตุ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อยู่หลายครั้ง จำเป็นจะต้องสืบสวนสอบสวนอย่างใกล้ชิด ขอรายละเอียดและดีเทลให้ชัดเจน เพื่อให้ได้คำตอบ ไม่ใช่แค่กับประเทศของเราเท่านั้น แต่ต้องตอบไปทั่วโลกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

“ถ้ามีจุดไหนที่เราต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดก็ขอให้ใช้กระบวนการทางกฎหมายดำเนินการอย่างเด็ดขาด รวบรวมข้อมูลให้ครบ ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องที่จริงจัง และขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ตนพร้อมสนับสนุนทุกๆ รายงานอย่างเต็มที่” น.ส.แพทองธาร กล่าว

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้นำแถลงภายหลังการประชุมฯ ว่า การประชุมวันนี้ได้ข้อสรุปหลายข้อ โดยขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า กฎหมายที่ออกมาใช้ควบคุมการก่อสร้างอาคาร สามารถรองรับกับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น หากแผ่นดินไหวเท่าเดิมจะไม่ทำให้ตึกถล่มมากขึ้น แต่ทุกตึกต้องทำตามที่กฎหมายกำหนดด้วย เท่าที่เห็นยังไม่เห็นว่ามีตึกไหนที่ได้รับความเสียหายมาก อาจมีปัญหาบ้าง เช่น การกระเทาะ แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ส่วนตึกสตง.ที่ถล่มที่เราเอามาดู ในข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า จากการพูดคุยพบข้อสงสัยหลายเรื่อง ที่เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากตั้งแต่เริ่มต้น และในกระบวนการก่อสร้าง แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน นับจากวันที่เกิดเหตุ ในการเคลียร์ไซต์งานที่เกิดเหตุ โดย ที่ประชุมจึงมีข้อสรุปว่าจะใช้คณะวิศวกรรมจาก 4 สถาบัน ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง เข้ามาหาสาเหตุ ทั้งนี้ แต่ละคนแต่ละฝ่ายจะทำโมเดลแยกกัน จำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของตึกที่ถล่ม เพื่อจะได้ทราบสาเหตุว่ามีอะไรที่ทำให้ถล่ม โดยการวิเคราะห์ผ่านการทำโมเดลของแต่ละสถาบัน จะใช้เวลาประมาณ 90 วัน ส่วนการใช้ 4 สถาบันเพื่อให้เกิดความร่วมมือ มีความโปร่งใส ทำให้ประชาชนเข้าใจว่า เราใช้คณะวิศวะจาก 4 สถาบัน เพื่อให้ข้อสรุปที่ชัดเจนและเกิดความมั่นใจได้

ด้าน นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณี การตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ว่า หลังจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้รับเป็นคดีพิเศษ และทางกระทรวงพาณิชย์ได้จัดส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ DSI ดำเนินการไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า พื้นฐานของรายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ไม่มีฐานะเพียงพอต่อการลงทุนได้ จึงต้องหาหลักฐานเพิ่มเติม เช่น การตรวจสอบบัญชีการเงินต่างๆ รวมถึงข้อมูลการเสียภาษี ที่สามารถใช้เป็นหลักฐานที่ดีในการดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าวได้ ส่วนตัวเชื่อว่า คนไทยที่ถือหุ้นในบริษัทเหล่านี้เป็นนอมินีจริง เพียงแต่ต้องรอหลักฐานเพิ่มเติมประกอบการทำคดี

“อีกทั้ง กระทรวงพาณิชย์เอง ยังได้ตรวจสอบบริษัทอื่นๆ รวม 37 บริษัท ที่อาจมีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงถึงบริษัทดังกล่าว โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะเร่งดำเนินการตรวจทั้งหมดและจะส่งข้อมูลให้ดีเอสไอ และ 13 บริษัทที่เกี่ยวกับไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10  ก็ส่งข้อมูลให้กับดีเอสไอ เช่นกัน” รมช.พาณิชย์ กล่าว.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password