กฤษฎีกาไม่ต้านลมการเมือง! รับพิจารณา ร่าง กม.คาสิโน ก่อนชงกลับเพื่อส่งต่อสภาฯ

ที่สุด! องค์กรที่ปรึกษาด้านกฎหมายของรัฐบาล อย่าง…สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก็ต้องลู่ลมไปกับแรงกดดันทางการเมือง!!!

เช็คท่าทีล่าสุด! ของ นายปกรณ์​ นิลประพันธ์​ เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อช่วงสายวันที่ 13 มกราคม 2568 ณ ทำเนียบรัฐบาล ทำนอง…

เราไม่ได้ขวางร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ (กาสิโนถูกกฎหมาย) แต่อยากให้รัฐบาลทำทุกอย่างให้ชัด…

ก็ไม่แปลกใจ ที่ คณะรัฐมนตรี ซึ่งมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่ง “หัวโต๊ะ” ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมฯ จะพิจารณาเห็นชอบ (ไฟเขียว) ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…. (ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ของกระทรวงการคลัง

เหตุที่ไฟเขียว เพราะแรงต้านจาก “กฤษฎีกา” ไม่ได้เข้มแข็งเหมือนก่อนหน้านี้

ฟังน้ำเสียงของ “โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า…นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ชี้แจงในที่ประชุม ครม.ว่า “กฤษฎีกา” ไม่ได้เห็นแย้งหรือไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ผ่านมาเป็นเพียงข้อสังเกตที่ต้องนำเรียน ครม. และจะสามารถนำไปปรับแก้เพิ่มเติมในกฤษฎีกาเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการสร้าง “สถานที่ท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นมา” (Man​-​made​ destination) ตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา

เมื่อ “กฤษฎีกา” ไม่มีความเห็นเป็นอื่น จากนี้…ก็คงต้องรับร่างกฎหมายฉบับนี้ ไปพิจารณา ก่อนส่งกลับมาให้ ครม. เพื่อเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรกันต่อไป

ท่าทีของ รัฐมนตรีด้านสังคม อย่าง…นายวรวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่ให้สัมภาษณ์ภายหลังการ ครม. ก็ชัดเจนว่า ไม่ได้เห็นต่างในจุดยืนของร่างกฎหมายฯ จากรัฐบาล เพราะเขายืนยันเองว่า…ขั้นตอนหลังจากนี้ จะจัดส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา โดยได้ให้สำนักงานกฤษฎีกาดูเพิ่มเติมบางประเด็น ตามที่กระทรวง พม.มีข้อห่วงใย

ขณะที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ผู้เสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ ให้ ครม.ได้พิจารณา ย้ำว่า ร่างกฎหมายฯ มีสาระสำคัญ เป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เช่น กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร และคณะกรรมการบริหาร จัดตั้งสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร และกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและกำกับดูแลเพื่อให้เกิดธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและส่งเสริมการลงทุนในประเทศ อันจะก่อให้เกิดผลดีต่อสังคมในภาพรวมและเป็นการสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

และ ขอให้นำความเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุมฯ ที่เน้นให้ความสำคัญกับการกำหนดโครงสร้างของกฎหมายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของนโยบายรัฐบาล การสร้างความชัดเจนในการกำกับดูแลและการป้องกันผลกระทบเชิงลบด้านสังคม เช่น การกำหนดพื้นที่สถานที่ตั้งให้มีความเหมาะสม การกำหนดผู้รักษาการร่วมตาม ร่างพระราชบัญญัติ เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เอง ก็ได้ให้ข้อสังเกตว่า…เรื่องนี้ก็ได้ผ่าน  คณะกรรมการกลั่นกรองของรองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย ชุณหวชิร) ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม และให้ความเห็นมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งขอให้นำไปพิจารณาในการออก พ.ร.บ. และให้พิจารณาต้นแบบในประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ทำศูนย์กลางท่องเที่ยวและเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในรูปแบบนี้จนประสบผลสำเร็จ ทั้งในมิติสังคมและทุกๆ ด้านที่เกี่ยวข้องมาเป็นข้อศึกษา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทยที่ต้องอธิบายให้ประชาชนทราบถึงผลดีที่คณะกรรมการศึกษามาว่ามีผลดีมากกว่า

กลับมาที่ “โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า…ที่ประชุม ครม.ได้แสดงความคิดเห็น ตอนหนึ่งที่สำคัญ คือ มีการระบุถึงสัดส่วนของกาสิโน ที่มีมีเพียงแค่ 10% เท่านั้น ที่เหลือจะเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ศูนย์ท่องเที่ยวและบันเทิงครบวงจรที่จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก เช่น การจัดการประชุม การจัดนิทรรศการระดับโลก การจัดคอนเสิร์ต หรือสถานที่ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น สวนน้ำสวนสนุกในรูปแบบสมัยใหม่ และถือว่าประเทศไทยถึงเวลาที่จะต้องยอมรับความจริงหรือยังว่าวันนี้มีแหล่งการพนันทั้งบนดินและใต้ดิน ทั้งในประเทศและรอบๆ ประเทศ ซึ่งโครงการนี้จะเน้นไปที่การสร้างเม็ดเงินจากธุรกิจการท่องเที่ยวให้กับประเทศ

โดย ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … ตามที่คลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้นำความเห็นและข้อสังเกตของ คณะกรรมการกลั่นกรอง คณะที่ 5 รวมทั้งความเห็นไปประกอบการพิจารณา จากนั้นรัฐบาลจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวาระที่ 1 เพื่อรับหลักการ และวาระ 2 การตั้งแปรญัตติ และตั้งกรรมาธิการเพื่อพิจารณารายมาตราและจะเข้าสู่วาระที่ 3 เพื่อลงมติผ่าน พ.ร.บ. จากนั้นจะส่งต่อไปยังสมาชิกวุฒิสภาเพื่อพิจารณาอีกครั้ง เชื่อว่าอย่างน้อยจะทันการประชุมสมัยนี้ ที่จะปิดในวันที่ 10 เมษายน หรือสมัยประชุมหน้า

ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. กำหนด ประเภทธุรกิจสถานบันเทิงไว้ 10 ประเภท ได้แก่ 1.ห้างสรรพสินค้า 2.โรงแรม 3.ร้านอาหาร ไนต์คลับ ดิสโก้เธค ผับ หรือบาร์ 4.สนามกีฬา 5.ยอชต์และครูซซิ่งคลับ 6.สถานที่เล่นเกม 7.สระว่ายน้ำและสวนน้ำ 8.สวนสนุก 9.พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP และ 10.กิจการอื่นๆ ตามที่ คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด นอกจากนั้นยังกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมต่าง อาทิ ใบอนุญาตครั้งแรก ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท ต่ออายุใบอนุญาต ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท ค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทย ครั้งละ 5,000 บาท เป็นต้น.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password