กกต.แจงเหตุ! ปมสั่งตั้งคณะทำงานสอบยุบพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล
เผยปมลึก “นายทะเบียนพรรคการเมือง” กกต. สั่งสอบคำร้อง ยุบพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล จากเหตุถูก “ทักษิณ ชินวัตร” ชี้นำและครอบงำ เหตุเพราะมีมูล หลังตรวจสอบเบื้องต้นถึงที่มาและเอกสารของคำร้องแล้วจึงสั่งตั้ง คกก.สอบสวนข้อเท็จจริง
รายงานข่าวจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งกรณีมีผู้ยื่นคำร้อง อาทิ บุคคลนิรนาม, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี, นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ, นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบชาว 2006 ฯลฯ ได้ขอให้ กกต. พิจารณาสั่งยุบพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล กรณียินยอมให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค กระทำการครอบงำ ชี้นำ จากเหตุการณ์ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรค เดินทางไปร่วมประชุมกับนายทักษิณ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อพิจารณาเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลง อีกทั้งยังอ้างอิงถึง การให้สัมภาษณ์ของ นายทักษิณหลายครั้ง เกี่ยวกับการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล การชี้นำพรรคเพื่อไทยในการเลือกพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงการนำวิสัยทัศน์ที่นายทักษิณได้แสดงไว้ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ในงาน Vission for Thailand 2024 ของเครือเดอะเนชั่น มาเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาล
จากการพิจารณาองค์ประกอบดังกล่าวจากคำร้องข้างต้น ซึ่งผู้ร้องเห็นว่าเข้าข่ายขัดมาตรา 29 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ห้ามมิให้ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการใดอันเป็นการควบคุมครอบงำหรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยการที่พรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการอันเป็นการควบคุมครอบงำชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ก็เข้าข่ายขัดมาตรา 28 ซึ่งหากการสอบสวนพบว่าเป็นความผิดก็จะเป็นเหตุให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอต่อกกต.ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) ของกฎหมายเดียวกันได้นั้น ทำให้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ในฐานะ “นายทะเบียนพรรคการเมือง” เห็นว่าคำร้องมีมูล จึงได้สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการสอบสวนและมีความเห็นเสนอ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่สามารถขอขยายได้อีกครั้งละไม่เกิน 30 วัน จนกว่าจะแล้วเสร็จ
“กรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องให้ กกต.ตรวจสอบ ทางสำนักงานฯ และกกต. จะต้องดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งกรณีนี้ก่อนที่นายทะเบียนพรรคการเมือง จะมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ ได้มอบหมายให้ คณะกรรมการส่วนที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตรวจสอบและกลั่นกรองรายละเอียดและข้อมูลก่อน 1 ชั้น เมื่อตรวจสอบแล้ว พบว่าคำร้องมีมูลเหตุเพียงพอ จึงสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง ไม่ใช่ตั้งกรรมการฯ สอบไปโดยที่ไม่ได้ตรวจสอบที่มาหรือเอกสารของคำร้องแต่อย่างใด” รายงานข่าว ระบุ.