ขจัดโกง ‘รัฐจัดซื้อฯ’ สุดเข้ม! ดึง สตง. ร่วม ‘4 ป.’ – สาวลึกเอาผิด ‘ตัวการเบื้องหลัง’ ยันทุกคนใกล้ตัว

กลุ่ม 4 ป. “ปปป. – ป.ป.ช. – ป.ป.ท. – ป.ป.ง.” ดึง สตง. รวมขจัดโกง ประกาศสงครามกวาดล้างเจ้าหน้าที่รัฐทุจริตงบประมาณแผ่นดิน จากการจัดซื้อจัดจ้าง เผย! ใครคิดโกงเจอฝันร้ายอย่างแน่นอน พร้อมขยายผลถึงตัวการใหญ่เบื้องหลังทุจริต สาวลึกถึงญาติพี่น้องและคนใกล้ตัวที่ร่วมกระทำผิด

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ปานแก้ว พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ประกาศความร่วมมือกับ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช. นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (เลขาธิการ ป.ป.ง.) นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 ป.ป.ท. และตัวแทนเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อ “การบูรณาการความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบด้านการเงินและการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ”

ทั้งนี้ พ.ต.ท.สิริพงษ์ กล่าวว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา “กลุ่ม 4 ป.” ประกอบด้วยตัว ป.ป.ช. ป.ป.ท. ป.ป.ง. และ ตำรวจ บก.ปปป. ได้ร่วมกันจับกุมผู้กระทำผิดทุจริตในมิติต่างๆ มากมาย อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังพบการทุจริตที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตงบจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่ง “กลุ่ม 4 ป.” ให้ความสำคัญอย่างมากและพยายามเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยในวันนี้ ยังได้รับความร่วมมือกับ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าร่วมบูรณาการ ทำให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ตำรวจสอบสวนกลาง ที่มี บก.ปปป. เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ ได้เปลี่ยนกการทำงานเชิงรับมาเป็นเชิงรุกมากขึ้น โดยทำการล่อซื้อจับกุม อีกยังให้ความสำคัญในการประสานข้อมูลทำงานร่วมกันกับหน่วยงานอื่น ๆ เช่น กลุ่ม 4 ป. เนื่องจากมีบางหน่วยที่มีข้อมูลหรือความชำนาญเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แต่ขาดเรื่องการสืบสวนสอบสวน ทุกหน่วยงานจึงต้องบูรณาการทำงานและร่วมมือกัน เพราะมิติของอาชญากรรมสมัยใหม่มีหลายด้าน

ทั้งนี้ การได้ สตง. เพิ่มอีกหน่วย เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับการทุจริตงบจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่มีมานาน เชื่อว่าการร่วมมือกันของ 5 หน่วยงานจะช่วยทำให้สามารถจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้คนที่คิดจะทำผิดเกรงกลัวต่อกฎหมายไม่กล้าทำผิด

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ที่ผ่าน กลุ่ม 4 ป. จะเน้นการทำงานเชิงรุก แต่ทุกหน่วยงานต่างมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน ซึ่งการได้ สตง. เข้ามาเพิ่ม จะยิ่งทำให้เข้มแข็งขึ้นไปอีก เพราะ สตง. เป็นหน่วยงานที่คุมการตรวจสอบเงินงบประมาณทั่วประเทศ มีข้อมูลทุจริตค่อนข้างมาก รวมถึงมีการคัดกรองตรวจสอบข้อเท็จจริงมาแล้ว โดยเฉพาะเคสสำคัญที่มีมูลค่าหรือตัวเลขเงินงบประมาณจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่จะนำมาต่อยอดการทำงานให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม

ขณะที่ นายภูมิวิศาล กล่าวว่า การมี สตง. เข้ามาร่วมบูรณาเพิ่มนั้น ถือเป็นมิติใหม่ในการร่วมกันแก้ไข ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งนี้ ที่ผ่านมามักมีคนถามตลอดว่าการจับกุมเป็นอำนาจของใคร วันนี้จึงจำเป็นต้องมารวมตัวกัน ถือเป็นการเสริมพลังพาคนผิดมาลงโทษ โดยอยากฝากไปถึงคนที่กำลังคิดจะโกง ขอเตือนไว้เลยว่าจะต้องเจอกับฝันร้ายอย่างแน่นอน

ส่วน นายสุขสันต์ กล่าวว่า การได้ สตง. เข้ามาร่วมงานด้วยกัน จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพและ รวดเร็วมากขึ้น เพราะมีข้อมูลการทุจริตงบประมาณโครงการต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะโครงการใหญ่มูลค่านับพันล้านบาท รวมไปถึงเรื่องของการทุจริตเงินงบประมาณจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งนี้ ป.ป.ช.เอง แม้จะมีการพัฒนาระบบการไต่สวนให้ทำงานรวดเร็วเพิ่มขึ้น รวมถึงในส่วนของงานสืบสวนตรวจสอบ ที่มีการบรรจุนักสืบสวนเพิ่ม มีครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่การทำงานของ ป.ป.ช. อาจดูล่าข้า ไม่ทันใจ ซึ่งอนาคตเชื่อว่าการทำงานจะรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าให้งานตรวจสอบต้องแล้วเสร็จภายใน 90 วัน ส่วนงานไต่สวนต้องแล้วเสร็จภายใน 2 ปี ถ้าทำงานล่าช้าอาจมีบทลงโทษได้

นายเทพสุ กล่าวว่า การทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง ถือเป็นความผิดต่อตำแหน่งราชการ มีผลต่อฐานความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเรื่องฟอกเงิน การบูรณาการกำลังร่วมกันของ 5 หน่วยงานในการแก้ปัญหาเรื่องทุจริต จะไม่ใช่แค่ฝันร้ายเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำผิดเพียงเท่านั้น แต่ญาติพี่น้องหรือคนใกล้ตัวที่ร่วมกระทำผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีอาญาด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

สำหรับ นายมณเฑียร ย้ำว่า ที่ผ่านมาเราอาจทำงานต่างคนต่างทำ แต่การที่ สตง.เข้าร่วมบูรณาการกับ กลุ่ม 4 ป. จะช่วยให้การแก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่รัฐทุจริต เกิดประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่า ต่อไปนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐคนไหนก็ตามที่คิดว่าเงินแผ่นดินทุจริตได้ จะต้องเจอกับฝันร้าย และจะต้องถูกดำเนินคดีด้วยความรวดเร็ว จากการบูรณาการ 5 หน่วย ซึ่งจากนี้ จะไม่จับแค่ปลาซิวปลาสร้อย แต่จะสาวไปถึงตัวการใหญ่ และจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย เพราะทำให้รัฐเสียหาย

“ปัจจุบันเรามีข้อมูลที่ส่อไปในทางทุจริตเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะการทุจริตโครงการขนาดใหญ่งบประมาณตั้งแต่หลักร้อยล้านบาทไปจนถึงหลักพันล้านบาท โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคอีสาน งบประมาณหลายร้อยล้านบาท ที่มีข้อมูลส่อเค้าว่ามีการทุจริต ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลซึ่งหากตรวจสอบพบว่าผิดจริง ก็จะเร่งประสานหน่วยงานอื่น ๆ ตรวจสอบดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ผู้ว่าการ สตง. ย้ำ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password