จากกรณีพบชาวเวียดนามและอเมริกันเสียชีวิต 6 ศพ ในโรงแรมชื่อดังย่านราชประสงค์ โดยมีขวดน้ำสแตนเลส 2 ขวดและแก้วน้ำต้องสงสัย ที่คาดว่าผู้เสียชีวิตได้ดื่มก่อนเสียชีวิต

วันที่ 17 ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบสารที่พบในแก้วเครื่องดื่มภายในห้องที่เกิดเหตุ พบว่าเป็น ‘ไซยาไนด์’ ถูกผสมอยู่เครื่องดื่มดังกล่าว

โดยประเด็นที่ตำรวจได้ตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ หลังจากทราบข้อมูลผู้เสียชีวิต 6 คน คือ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้จองโรงแรมมา 7 คน แต่เช็กอิน 5 คน แต่พบศพ 6 ราย ทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบ หาเบาะแสบุคคลที่ 7 พบแล้ว คาดว่า เป็นน้องสาวของ 1 ใน 6 คนที่เสียชีวิต

ขณะนี้ได้ทราบชื่อทั้งหมด 7 คนแล้ว โดยคนที่ 7 ได้บินกลับประเทศไป ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา เบื้องต้น สันนิษฐานว่าน่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต และคาดว่า การเสียชีวิตในครั้งนี้ เกิดจากบุคคล 1 ใน 6 ที่เสียชีวิต เป็นคนวางยาทั้งหมด ก่อนจะเสียชีวิตเป็นรายสุดท้าย ซึ่งมีสาเหตุมาจากปมหนี้สิน

โดยวันนี้(17ก.ค.) ที่ สน.ลุมพินี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เมื่อคืนได้เรียกลูกสาวของ 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำ รวมถึงเรียกสอบพยานแวดล้อมเพิ่มเติมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยแต่ละคนให้การเป็นประโยชน์ ซึ่งตามข้อมูล เชื่อว่ามูลเหตุน่าจะมาจากเรื่องปัญหาหนี้สิน ไม่มีประเด็นอื่น โดยคนก่อเหตุ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นนอกเหนือจาก 6 คนที่เสียชีวิต เพราะการตรวจสอบการเข้าออกห้องนี้ พบว่า มีแค่กลุ่มผู้เสียชีวิตเท่านั้น

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ก่อเหตุวางยาพิษฆาตกรรมภายในโรงแรมหรูดังกล่าว เป็น 1 ใน 6 ศพผู้เสียชีวิตนั้น คือ Ms.SHERINE CHONG สัญชาติอเมริกัน โดยสภาพศพสวมชุดสีเขียว

ทั้งนี้ปมเหตุการฆ่ากันมาจากปัญหาหนี้สิน ซึ่งตอนแรกนัดหมายไปเจรจาที่ญี่ปุ่น แต่สุดท้ายเลือกประเทศไทย ซึ่งสามีคนวางยาได้เดินทางไปญี่ปุ่น และกำลังเดินทางมาประเทศเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม.