พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ “ประธานป.ป.ช” ยืนยันไม่ปล่อยคดี “บิ๊กโจ๊ก” เป็นเรื่องเงียบ เหตุเป็นเรื่องร้ายแรงอยู่ในความสนใจของสังคมไทย ลั่น! เตรียมชงเรื่องเข้าคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา พร้อมดำเนินการด้วยความชัดเจนและโปร่งใสที่สุด!

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ที่อาคารรัฐสภา กรณีการจะยื่นสำนวนคดีตรวจสอบเอาผิดกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เข้าใน คณะกรรมการป.ป.ช. ว่า เนื่องจากสำนวนดังกล่าวเข้าเงื่อนไขของกฎหมายและเป็นเรื่องร้ายแรง ป.ป.ช.จึงมีมติให้นำเข้าแล้ว เพราะเข้าข่ายการทุจริต พ.ศ. 2542 โดยถือเป็นอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตามมาตรา 66 พ.ร.ป.รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม   

ส่วนระยะเวลาที่จะใช้พิจารณา อยู่ที่กระบวนการ เมื่อรับเรื่องมาก็ต้องตรวจสอบ แต่เนื่องจากเรายังไม่ได้รับเอกสาร ทุกอย่างจึงเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการขอข้อมูลจาก “ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หรือไม่ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ถ้าเรื่องส่งมาถึง ป.ป.ช.ก็จะพิจารณา แต่ที่ปรากฎเป็นข่าวยังไม่มี ซึ่งหากเรื่องยังมาไม่ถึง ป.ป.ช.คงไม่สามารถจะพิจารณาได้

ความเป็นตำรวจรุ่นน้องได้สร้างความหนักใจหรือไม่ เมื่อต้องตรวจสอบเรื่องนี้ พล.ต.อ.วัชรพล ย้ำว่า ไม่หนักใจ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน สิ่งสำคัญคือต้องให้ความเป็นธรรมและตรวจสอบตามหลักฐาน ส่วนจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะต้องดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้นก่อน หากมีหลักฐานเพียงพอก็จะต้องทำการไต่สวน เพราะ 1.เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานไต่สวนจะดำเนินการ เมื่อมีมติแล้วก็ต้องส่งเอกสารมาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดูว่ามีข้อเท็จจริงหรือหลักฐานอะไรบ้าง และ 2.เป็นไปตามกระบวนการของ ป.ป.ช. หากเราเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบ ก็จะมีกรรมการ 2 คนทำการไต่สวน แต่หากเป็นเรื่องที่ใหญ่มากคณะกรรมการทุกคนก็จะมาไต่สวน

“ผมยืนยันว่าเรื่องนี้คงจะเงียบไม่ได้หรอก เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนสนใจ ขอยืนยันว่า ป.ป.ช.จะทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน และโปร่งใสอย่างเต็มที่” ประธาน ป.ป.ช. ย้ำ.