จับ 6 อินเดียแสบ! แอบยัดสารพัดสัตว์คุ้มครองส่งออกไปประเทศตัวเอง
กรมศุลกากรจับกุม “6 คนอินเดีย” คาสนามบินสุวรรณภูมิ แอบลักลอบนำสัตว์บัญชี CITES หรือสัตว์คุ้มครอง กว่า 10 ชนิด รวม 87 ตัว ยัดใส่กระเป๋าเดินทาง หวังสอดใต้ท้องเครื่องบิน ส่งออกปลายทางเมืองมุมไบ บ้านตัวเอง
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหาร การจัดเก็บภาษี ในฐานะ โฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากร ภายใต้การนำของ นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ได้ดำเนินการตามนโยบายของ นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ด้วยการเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหลีกเลี่ยงนำเข้า – ส่งออกของที่มีภาระค่าภาษี ของผิดกฎหมาย ของต้องห้าม ต้องกำกัด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนควบคุมทางศุลกากร ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม บูรณาการร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมประมง และ บมจ.ท่าอากาศยานไทย จับกุมผู้โดยสารชายชาวอินเดีย จำนวน 5 ราย และผู้โดยสารหญิงชาวอินเดีย จำนวน 1 ราย พยายามลักลอบนำสัตว์มีชีวิตออกไปนอกราชอาณาจักร เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปลายทางเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย
โดยพบ สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ได้แก่ กิ้งก่า (Black Throat Monitor,อื่น ๆ) 29 ตัว งู (Corn Snake, Red Bamboo, อื่นๆ) 21 ตัว นก (Bird of Paradise, นกแก้วปากใหญ่, อื่น ๆ) 15 ตัว ตะกวด 7 ตัว จิ้งเหลน 4 ตัว กระรอกตาแดง 2 ตัว ค้างคาว 2 ตัว ลิงหัวสำลี (Cotton Top) 2 ตัว เสือปลา 1 ตัว แพนด้าแดง 1 ตัว หมี Sulawesi Bear Cuscus 1 ตัว กบ 1 ตัว และ หนู 1 ตัว รวมทั้งสิ้นจำนวน 87 ตัว โดยของกลางทั้งหมดได้บรรจุซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางที่ผู้โดยสารจะโหลดใต้ท้องเครื่อง
“การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานพยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร มาตรา 242 ประกอบมาตรา 166 และมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบกับสัตว์ดังกล่าวบางรายการอยู่ภายใต้การควบคุมตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ภายใต้พระราชบัญญัติสงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 23 วรรคแรก และมาตรา 112 และเป็นความผิดตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และมาตรา 92 วรรค 2 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558” โฆษกกรมศุลกากร กล่าว.