“สมาคมผู้ขายส่งยาสูบเตือนรัฐ! ปรับภาษีบุหรี่อัตราเดียว เสี่ยงกระทบหนัก! ทำเศรษฐกิจเปราะบาง ผู้ค้ารายย่อยอ่วม ยอดขายร่วงทันที” ชี้! บทเรียนเดิมทำตลาดบุหรี่เถื่อนพุ่ง หวั่นรัฐยิ่งเสียรายได้หากเดินหน้าโดยไม่จัดการสินค้าลักลอบให้เด็ดขาดก่อน

นายธานินทร์ หิรัญโชติ นายกสมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบ แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบ เป็น “อัตราเดียว” โดยชี้ว่า การดำเนินมาตรการดังกล่าวในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังเปราะบาง อาจสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างและรุนแรงต่อทั้งผู้บริโภค ผู้ค้าปลีก–ค้าส่ง และรายได้ของประเทศ พร้อมเตือนว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจยากต่อการแก้ไขหากไม่มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ

นายธานินทร์ กล่าวว่า การปรับขึ้นภาษีบุหรี่อย่างรวดเร็วในอดีต เป็นบทเรียนชัดเจนที่ทำให้ตลาดบุหรี่ผิดกฎหมายขยายตัวทันที เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากไม่สามารถรับราคาบุหรี่ที่เพิ่มสูงขึ้น และหันไปซื้อสินค้าลักลอบที่มีราคาถูกกว่าอย่างมาก ส่งผลให้ผู้ค้าถูกกฎหมายต้องเผชิญการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม ขณะเดียวกันรัฐก็สูญเสียรายได้ภาษีอย่างมีนัยสำคัญ

ซึ่งนอกจากจะเป็นปัญหาในด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขเพิ่มขึ้นอีก เพราะสินค้าเหล่านี้มักไม่ได้มาตรฐานอีกด้วย

สำหรับ ผู้ค้าปลีกและค้าส่งทั่วประเทศ ก็เช่นกัน คนกลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบจะเกิดขึ้นทันที เมื่อมีการใช้อัตราภาษีเดียว เนื่องจากราคาบุหรี่หลายประเภท โดยเฉพาะ บุหรี่ราคาประหยัด จะปรับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น ผู้ค้าจึงเสี่ยงต่อยอดขายที่ลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่ ตลาดบุหรี่ผิดกฎหมายจะได้โอกาสขยายตัว เพราะสามารถขายในราคาที่ต่ำกว่ามาก เป็นแรงดึงดูดผู้บริโภคโดยตรง

นายกสมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบ ย้ำว่า หากรัฐเดินหน้าใช้โครงสร้างภาษีอัตราเดียวโดยไม่จัดการปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายให้เด็ดขาด ผลลัพธ์อาจตรงข้ามกับเป้าหมายของรัฐที่ต้องการเพิ่มรายได้ เพราะบุหรี่ผิดกฎหมายจะเข้ามาแทนที่สินค้าถูกกฎหมายที่มีราคาสูงขึ้นจากภาษี ทำให้รายได้ภาษีของรัฐลดลง และเป็นภาระต่อผู้ประกอบการสุจริตในทุกระดับ เพื่อให้การพิจารณานโยบายภาษีครั้งนี้เกิดความรอบคอบและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น สมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบ จึงขอเรียกร้องต่อภาครัฐ ดังนี้

1. ชะลอการปรับเปลี่ยนภาษีเป็นอัตราเดียว พิจารณาทบทวนหรือชะลอการบังคับใช้โครงสร้างภาษีอัตราเดียว และคงโครงสร้างภาษีแบบผสมตามปัจจุบัน เพื่อให้มีเวลาในการศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

2. หากต้องปรับขึ้นภาษี ควรดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อป้องกันการปรับราคาแบบฉับพลันที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการจำนวนมาก ควรใช้วิธีการปรับภาษีทีละขั้นอย่างเหมาะสมตามจังหวะเศรษฐกิจ

3. เร่งปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง ดำเนินมาตรการปราบปรามเครือข่ายบุหรี่ผิดกฎหมาย รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ เพื่อแก้ปัญหาที่แท้จริงซึ่งทำให้รัฐจัดเก็บรายได้ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย และทำให้ผู้ค้าเสียเปรียบอย่างไม่เป็นธรรม

“หากไม่จัดการปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายให้เด็ดขาดก่อน การผลักดันภาษีอัตราเดียวจะยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ ทั้งผู้ค้าและรัฐจะได้รับผลกระทบหนักขึ้น รัฐอาจเก็บภาษีได้น้อยลงกว่าเดิม และตลาดบุหรี่ถูกกฎหมายจะถูกบุหรี่เถื่อนครอบงำมากขึ้น”

นายธานินทร์ กล่าวในตอนท้ายว่า สมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบหวังว่าภาครัฐจะรับฟังข้อมูลจากผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และพิจารณานโยบายภาษีครั้งนี้ด้วยความรอบคอบ บนพื้นฐานข้อมูลจริง เพื่อป้องกันผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และรักษารายได้ของประเทศอย่างยั่งยืน.