มีแต่ความว่างเปล่า..!! รมว.ยธ.ยันไม่พบนักการเมืองไทยโยงแก๊งสแกมเมอร์

รมว.ยุติธรรม แจง ดีเอสไอ ตั้งคณะกรรมการปราบสแกมเมอร์ ล่าสุดยังไม่พบนักการเมืองไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง กรณี “เฉิน จื้อ” อยู่ระหว่างขอข้อมูลจากต่างประเทศ ส่วน “เบน สมิธ” ยืนยันไม่พบฐานข้อมูลความผิดคดีพิเศษ

เมื่อวันนี้ (22 ต.ค.) อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการประชุมปราบปรามสแกมเมอร์เครือข่ายสแกมเมอร์และคอลเซนเตอร์ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จัดตั้งขึ้นและร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ตั้งแต่นายกฯ เรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรรมทางเทคโนโลยี เบื้องต้นมอบหมาย กระทรวงยุติธรรม รับผิดชอบเรื่องปราบปราม และได้ประชุมเบื้องต้นซึ่งทุกกรณีที่เป็นข่าวจะทำการตรวจสอบ โดยให้นโยบาย อธิบดีดีเอสไอ ว่าให้ใช้อำนาจตามกฎหมาย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งในรูปคณะกรรมการฯ สืบสวนเบื้องต้น บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้ง ปปง. , ธนาคารแห่งประเทศ ฯลฯ เพื่อพิสูจน์ทราบ หากพบเป็นความผิดก็มีอำนาจตามกฎหมายที่จะรับเป็นคดีพิเศษ โดยต่อไปนี้ทุกกรณีที่สื่อมวลชนเปิดทั้งหมด ถ้าได้รับทราบแล้ว คณะกรรมการจะตรวจสอบทุกประเด็นในคดีที่สำคัญ
เมื่อถามว่าส่วนการตรวจสอบประเด็นนักการเมืองไทยเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์กัมพูชาด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล ยืนยันว่า ถูกต้อง ขณะนี้ดำเนินการในส่วนของนักการเมือง ตนเชื่อว่าถ้ามีพยานหลักฐานต่างๆ โดยนายกฯ จะดำเนินการแน่นอน เพียงแต่ว่ายังไม่มีพยานหลักฐานใดๆ ที่ปรากฏ ฝากสื่อมวลชนหากมีพยานหลักฐานขอให้มอบได้เลย ยินดีที่จะปฏิบัติเพราะเป็นภัยคุกคามกับพี่น้องประชาชน แต่ตอนนี้ยังไม่มีรายชื่อนักการเมืองในมือดีเอสไอ
เมื่อถามว่าในส่วนการขยายผลการฟอกเงิน ยึดทรัพย์เครือข่าย “เฉิน จื้อ” และเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์กัมพูชาที่มีทรัพย์ในไทย ปปง. ดำเนินการอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.รุทธพล เผยว่า เรื่องนี้เป็นเคสแรกที่ได้ให้นโยบายไปผ่าน อธิบดีดีเอสไอ ใช้อำนาจการสอบสวนคดีพิเศษสืบสวนพร้อมประสานกับหน่วยงานทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน แต่เรื่องต่างๆ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ดีเอสไอยังไม่มีข้อมูลพิสูจน์ทราบที่ชัดเจน จะต้องถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ยืนยันว่ารูปแบบการดำเนินการต่อไปนี้จะเป็นลักษณะนี้ทั้งหมดจะเข้าคณะกรรมการสืบสวนทั้งหมด หากพบการกระทำผิดจะรับเป็นคดีพิเศษทั้งหมด
เมื่อถามว่ากรณี ส.ส.พรรคประชาชน เปิดประเด็นรายชื่อนัการเมืองไทยเกี่ยวข้องแก๊งสแกมเมอร์นั้น ด้าน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้จะดำเนินการขอข้อมูลจาก ส.ส. ที่ให้ข่าวส่วนนี้ คงไม่ตัดประเด็นถ้าให้ข่าวมาว่ามีนักการเมืองคนใดเกี่ยวข้อง เราก็ต้องไปขอข้อมูลอาจเป็นเอกสาร เพื่อมาตอบสื่อมวลชนว่าท่านที่พูดมีข้อมูลมากน้อยเพียงใดที่จะทำการสืบสวนต่อได้หรือไม่
ต่อข้อถามว่า สำนักงาน ปปง. จะมีอำนาจสืบสวนตรวจเส้นทางการรเงินได้เลย โดยไม่ต้องรอให้ใครนำหลักฐานมาให้ดำเนินการได้เลยหรือไม่ ด้าน นายเทพสุ ระบุว่า กรณีการดำเนินการของ ปปง. การใช้อำนาจ ปปง. ต้องมีประเด็นความผิดมูลฐานพอสมควร เราถึงไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน ขยายผลไปสู่การยึดอายัดทรัพย์ต่างๆ ส่วนกรณี “เฉิน จื้อ” โดยทาง ปปง. เองก็สอบถามข้อมูล ต้องบูรณาการร่วมกันทุกมิติ สอบถามข้อมูลทั้งในและต่างประเทศ และทำงานเป็นทีม
ส่วนกรณีมีการตรวจสอบบริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ตั้งอยู่ที่อาคารอาคารซิโน-ไทยทาวเวอร์ มีความคืบหน้าอย่างไร รมว.ยุติธรรม บอกว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ในส่วนดีเอสไอจะตั้งคณะกรรมการพิสูจน์ทราบ เรื่องการจดทะเบียนต่างๆ เพื่อหน่วยงานจะไปขอข้อมูลได้หลายหน่วยงาน ต้องขอเวลา ส่วนรายละเอียดว่าเป็นบริษัทในเครือ ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป จริงจะสามารถยึดทรัพย์ได้เลยหรือไม่ ซึ่งต้องขออนุญาตรอผลการตรวจสอบก่อน
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีผู้มาร้องให้ตรวจสอบ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ (Mr.Benjamin Mauerberger) หรือ นายเบน สมิธ (ผู้เสียหาย) แต่ไม่พบความผิดฐานข้อมูลของดีเอสไอ หลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุสั้นๆ ว่า ตั้งคณะทำงานอยู่ ต้องรอให้มีการรายงานเข้ามาก่อน.