พปชร.รับลูก ภท. ร่วมลงชื่อเปิดซักฟอก ‘อิ๊ง’ เซ่นคลิปเสียง – ประกาศ ‘หัวชนฝา’ ค้าน ‘กาสิโน-นิรโทษฯ’

“พปชร.” คัดค้านเต็มที่ “ร่างกฎหมายกาสิโน – นิรโทษกรรม” ประกาศร่วมพรรคฝ่ายคาน ลงชื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกฯอิ๊ง” ปมหลุดคลิปเสียงคุย “อังเคิ้ลฮุน เซน” ด้าน “โฆษก พปชร.” ชี้! หากศาลฎีกาฯ ชี้คดี “ป่วยทิพย์” ชั้น 14 ผิดจริงรับมติแพทยสภา “ทักษิณ” ต้องกลับมาติดคุกใหม่ ลั่น! ที่ประชุมพรรคฯ ลุ้น “แพทองธาร” หลุดเก้าอี้ ปมคลิปเสียง

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (2 ก.ค.2568) ณ ที่ทำการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.), พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์, นายสุรเดช ยะสวัสดิ์, นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขานุการพรรค และกรรมการบริหารพรรค เข้าประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้ พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังการประชุมฯว่า ได้มีการประชุมเรื่องที่สำคัญต่างๆ ดังนี้
เรื่องที่ 1 พล.อ.ประวิตร ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนคนไทยที่มีหัวใจรักชาติ รักแผ่นดิน หวงแหนแผ่นดินไทย และได้มาแสดงออกในการรวมพลังคนรักพื้นแผ่นดินไทยที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และในจังหวัดอื่นๆ จำนวนหลายแสนคน ทางพรรคพลังประชารัฐขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้คนไทยรักและสามัคคี หวงแหนแผ่นดินไทยนี้ ไว้ชั่วลูกชั่วหลานตลอดไป

เรื่องที่ 2 การเสนอกฎหมาย ร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งรัฐบาลเดิมได้เลื่อนวาระการนำเสนอเข้าที่ประชุมสภา และคาดว่าจะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุมในครั้งต่อไป คาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 9 ก.ค.68 ที่ประชุมฯมีความเห็นคัดค้านไม่เอาด้วยกับกาสิโน และร่างกฎหมายดังกล่าว นอกจากนี้ กรณีมี แกนนำพรรคเพื่อไทย บางคนให้สัมภาษณ์ในกรณีที่ จะนำ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณาแทน พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ พรรคพลังประชารัฐไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมในทุกๆมิติ โดยเฉพาะการนิรโทษกรรม ผู้กระทำผิดเกี่ยวกับ ม.112 หรือ ก.ม. เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ
เรื่องที่ 3 พรรคภูมิใจไทยได้เชิญให้พรรคร่วมฝ่ายค้าน ลงนามยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี กรณีคลิปเสียงกับ “ผู้นำกัมพูชา” เนื่องจากมีความเสี่ยงในการสูญเสียอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศ ไทยนั้น โดยที่ประชุมพรรคฯ มีมติเห็นด้วยกับพรรคภูมิใจไทย และประกาศชัดเจนว่าพร้อมลงลายมือชื่อในญัตติดังกล่าว
เรื่องที่ 4 การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบทุกข์ภัยน้ำท่วมในเขตพื้นที่ภาคเหนือในจังหวัดเชียงราย ใน อ.เมือง อ.พญาเม็งราย และ อ.แม่สาย รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงอีกกว่า 1000 ครอบครัว

พล.ต.ท.ปิยะ ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาถึงกรณี แกนนำพรรคเพื่อไทย พยายามจะเสนอร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณา อาจเพราะคาดหวังจะหาทางช่วยเหลือ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งขณะที่ ศาลฎีกาฯอยู่ระหว่างการไต่สวน กรณีความผิด “ป่วยทิพย์” ชั้น 14 ซึ่งจากพยานหลักฐานที่ปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานที่ได้จากการสอบสวนของแพทยสภา ที่ลงมติว่าบุคลากรทางการแพทย์มีการกระทำผิดจริยธรรมจริง แสดงถึงการป่วยที่ผ่านมาเป็นการ “ป่วยทิพย์” ไม่ใช่ป่วยในภาวะวิกฤตที่มีความจำเป็นต้องออกมาทำการตรวจรักษาภายนอกเรือนจำ
ทั้งนี้ หากศาลฯ มีคำสั่งหรือคำพิพากษาในทิศทางเดียวกันกับมติแพทยสภา จะทำให้การควบคุมตัว 180 วัน ที่ รพ.ตำรวจ เป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นผลทำให้ผู้ต้องขังดังกล่าวถือว่ายังไม่ได้รับโทษ และขาดคุณสมบัติในการขอพระราชทานอภัยโทษ 1 ปีสุดท้าย ทำให้ต้องกลับไปรับโทษ 1 ปีใหม่ และจะมีความผิดอื่นติดตามมาด้วย

นอกจากนี้ ในคดี ม.112 ซึ่งอยู่ในกระบวนการสืบพยานของศาลฯ ก็มีความเป็นไปได้ว่าศาลฯจะลงโทษผู้กระทำผิดตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ กรณีนี้ทาง พปชร. จึงเห็นว่าการพยายามผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อกลุ่มบุคคล หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวกับ “ยุทธศาสตร์ออนไลน์” ว่า ที่ประชุมพรรคฯยังได้พูดคุยถึงกรณี ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ซึ่งส่วนใหญ่ยังรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วน น.ส.แพทองธาร จะต้องพ้นสภาพการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีหรือไม่? ต้องขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในอีก 1 เดือนเศษข้างหน้า ส่วนกรณีที่ พรรคภูมิใจไทย ได้เชิญให้พรรคร่วมฝ่ายค้าน ลงนามยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี กรณีคลิปเสียงกับ “ผู้นำกัมพูชา” หากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เห็นพ้องกัน ก็มีความเป็นไปได้ที่ น.ส.แพทองธาร พ้นการเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ คงต้องรอดูในวันที่มีการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีต่อไป.