นับถอยหลัง!!!

ภายหลังจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ ประกาศให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (1 ก.ค.2568)
โฉมหน้าของ “ครม.แพทองธาร 1/2″ จะมี…นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย, นายสุชาติ ตันเจริญ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็น รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายจตุพร บุรุษพัฒน์ เป็น รมว.พาณิชย์, นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ เป็น รมช.พาณิชย์, นายเดชอิศม์ ขาวทอง เป็น รมช.มหาดไทย
นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น รมว.แรงงาน, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควบ รมว.วัฒนธรรม อีกตำแหน่ง, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็น รมว.ศึกษาธิการ, น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ เป็น รมช.ศึกษาธิการ, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็น รมช.ศึกษาธิการ, นายอนุชา สะสมทรัพย์ เป็น รมช. สาธารณสุข และ นายชัยชนะ เดชเดโช เป็น รมช.สาธารณสุข
ที่ หลุดจากวงโคจร! จะด้วยเหตุผลใด? ไม่แน่ชัด นั่นคือ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี (รมว.พาณิชย์) และ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี (รมช.เกษตรและสหกรณ์)
ส่วนคนอื่นๆ ที่ไม่มีรายชื่อเปลี่ยนแปลง ก็คงดำรงตำแหน่งเดิมกันต่อไป
ยกเว้น! เก้าอี้ “รมว.กลาโหม” ที่ยังไม่แต่งตั้งในรอบนี้ แต่จะรอจนกว่า “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ครบกำหนดการเว้นวรรค 2 ปี หลังจากเคยดำรงตำแหน่ง สว. โดยจะเสร็จสิ้นในวันที่ 30 ก.ย.ทนี้
จึงจะมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
หากเป็น สถานการณ์ปกติ ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ จะเป็น น.ส.แพทองธาร ที่ต้องนำ ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้า และถวายสัตย์ปฏิญาณ
แต่เพราะมันไม่ปกติ? เนื่องเพราะ…หลังจากนั้นไม่นาน สิ่งที่หลายฝ่าย แม้กระทั่ง คนใน “รัฐบาลแพทองธาร” คาดการณ์กันไว้ ที่สุดก็เป็นจริง!
เมื่อ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 9 ต่อ 0 ให้รับคำร้อง และมีมติ 7 ต่อ 2 ให้นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2568 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ยื่นคำร้อง ปม “หลุดคลิปเสียง” การสนทนาระหว่าง นายกฯแพทองธาร กับ นายฮุน เซน ว่า เป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรมในทางการเมืองอย่างร้ายแรง
ทันทีที่ข่าวนี้…มีความชัดเจน ตลาดหุ้นไทยที่เปิดตลาดภาคเช้า มีเคลื่อนไหวในแดนลบสลับบวก ก็ขยับมาอยู่ในแดนบวก กระทั่ง ปิดตลาดช่วงบ่ายที่มีแรงซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไหลมาปิดตลาดที่ 1,110.01 จุด บวก 20.45 จุด หรือ 1.88%
สะท้อนว่า…นักลงทุนเอง ตอบรับกับข่าวคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญฯ โดยไม่หวั่นอะไรมากนัก
ขณะที่ สื่อต่างชาติหลายสำนัก ต่างก็รายงานข่าวนี้ในทำนองเดียวกัน และเป็นไปในลักษณะที่ไม่เป็นคุณกับ น.ส.แพทองธาร สักเท่าใด?
แต่ที่ดูเหมือนจะเป็นปม “ซ้อนในซ้อน?” ก็คือ แม้ ครม.จะมีมติให้ นายภูมิธรรม ทำหน้าที่ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ทว่า กับตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้ นายภูมิธรรม มิอาจปฏิบัติดังกล่าว จนกว่าจะได้ เข้าเฝ้า และถวายสัตย์ปฏิญาณ
หน้าที่ในการนำ ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้า และถวายสัตย์ปฏิญาณ จึงตกเป็นของ รองนายกฯอันดับที่ 2 นั่นคือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม
หลังจากเสร็จสิ้นการ ถวายสัตย์ปฏิญาณ การทำหน้าที่ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี จึงจะกลับมาเป็นของ นายภูมิธรรม จนกว่า ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยในเรื่องนี้…
หมายความว่า…การหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ของ น.ส.แพทองธาร รอบนี้ ต้องใช้ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ถึง 2 คน
และแม้ น.ส.แพทองธาร “คนเจนวาย” จะยืนแถลงท่ามกลาง วอลเปเปอร์หน้าเดิม ในกลุ่ม “คนเจนเบบี้บูม” เป็นส่วนใหญ่ ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก กระนั้น เธอยังคงยืนยันหนักแน่นว่า…
ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อจากนี้ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ มีเวลาอีก 15 วันที่จะชี้แจง ก็จะทำให้เต็มที่ๆ บอกถึงความตั้งใจที่แท้จริงในเรื่องคลิปเสียงที่หลุดออกมา ว่า มีความตั้งใจทำเพื่อประเทศขชาติ ต้องการรักษาอธิปไตย รักษาชีวิตของทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา มั่นใจในสิ่งนี้มากๆ
เพียงแต่วิธีการที่ทำ อาจถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ว่าเป็นความตั้งใจเป็นความพยายามเกิน 100 เปอร์เซ็น ที่จะทำเพื่อประเทศชาติ เจตนาไม่ได้อยากได้อะไรของตัวเองเลย
“คิดอย่างเดียวว่า ทำยังไงไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ไม่ต้องสู้รบ ทหารไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ เพราะดิฉันรับไม่ไดัถ้าหากทำให้เกิดผลเสีย ทะเลาะโกรธเคืองกัน ถ้าฟังดูก็จะรู้ว่าไม่มีเจตนาร้าย จะใช้เวลาที่มีชี้แจงให้อย่างครบถ้วน” น.ส.แพทองธาร ระบุและว่า…
เมื่อคืนก็มีคนส่งกำลังใจมาให้อย่างไม่ขาดสาย ขอโทษพี่น้องคนไทยทุกคนที่ไม่สบายกับเรื่องนี้ หรือรู้สึกโกรธเคือง ขอยืนยันว่า ตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติจริง ต้องขอโทษในวิธีการ ถ้าไม่ถูกใจใครหลายคน เวลาที่ถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำหน้าที่ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ยืนยันมีแรงกายแรงใจเต็มที่พร้อม ทำให้ประเทศชาติทุกนาที
นายกฯแพทอง เพิ่งได้เอ่ยปาก “ขอโทษประชาชน” ก็ครั้งนี้ เพราะก่อนหน้านี้ เธอใช้แค่คำว่า “ขออภัย!”
การต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ทำให้มีหลายกระแสเสียง ที่ทั้ง เสนอแนะ และบีบคั้น ให้ “รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี” อาศัยจังหวะนี้…ประกาศ ลาออก ถึงขั้น ยุบสภาฯ เลยก็มี…
2 เสียงที่พูดสอดรับกัน หนึ่งคือ…นายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แนะนำให้ “รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี” ผ่าวิกฤตด้วยการ ยุบสภา คืนอำนาจประชาชน
หาไม่แล้ว พายุ “นิติสงคราม” ที่ได้ก่อตัวระลอกใหม่ อาจทำการเมืองไทยเข้าสู่ภาวะ “สุญญากาศทางการเมือง” ได้
อีกหนึ่ง…คือ น.ส.สิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ที่กล่าวก่อนหน้าจะมีคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ โดยสื่อสารไปยัง น.ส.แพทองธาร ว่า…ส่วนตัวมั่นใจว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
กระนั้น สิ่งนี้…จะไม่ทำให้เกิด “เดดล็อก” ทางการเมือง
ทางออกที่ดีและสง่างามที่สุด ในสถานการณ์นี้ คือการ ยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนจัดการเลือกตั้งใหม่
อย่างที่รู้กัน ถึง น.ส.แพทองธาร อยากจะยุบสภาฯ คืนอำนาจให้ประชาชน แต่จากผลโพลล์ของหลายสำนักที่ชี้ตรงกัน และตรงกับโพลล์ของรัฐบาล
“ปิดประตูชนะ” และรอบหน้า…จะพ่ายแพ้ “พรรคสีส้ม – ประชาชน” แบบไม่เห็นฝุ่น ยิ่งกว่าการเลือกตั้งรอบก่อนหน้านี้
จำเป็นจะต้องทู่ซี้กันต่อไป
ที่สุด! หากการเมืองไทย จะต้องเดินเข้าสู่เกมการเมืองอย่างที่คนบางกลุ่ม? วางแผนเอาไว้ นั่นคือ สร้างภาวะ “สุญญากาศทางการเมือง” ได้
รอบนี้…อาจไม่เหลือ หรือเหลือน้อยมาก สำหรับ “นักการเมืองไทย” ใน พ.ศ.นี้
ฤาสถานการณ์นี้ กำลังจะทำให้การเมืองไทย…เริ่มนับถอยหลังกันแล้ว!!!.