พิสูจน์หลักฐานฯใช้หุ่นขนาดเท่าตัวจริง จำลองเหตุ ‘ผกก.โจ้’ – DSI ชี้! ปมนี้ไม่เป็นคดีพิเศษ ยก ตร.ทำตาม กม.อุ้มหาย
กองพิสูจน์หลักฐานกลาง นำหุ่นขนาดเท่าตัวจริงร่วมจำลองเหตุการณ์ “อดีตผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตคาเรือนจำ ด้าน “ดีเอสไอ” ยันคดีนี้ไม่เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ ย้ำ! เป็นเรื่องของตำรวจทำคดีตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย
เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 14 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม, พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน, สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ และ พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เดินทางเข้าไปภายในเรือนจำฯ เพื่อจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “อดีตผู้กำกับโจ้” เพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.สัญญา กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปภายในเรือนจำ เพื่อจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ รวมไปถึงการตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติม โดยมีทางกองพิสูจน์หลักฐานเป็นผู้นำหุ่นขนาดเท่าตัวจริงเข้ามาจำลองว่าการเสียชีวิตมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดกรณีที่นำผ้าขนหนูมาแขวนคอ รวมทั้ง ในส่วนที่จะต้องหารือกับคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายด้วยหรือไม่ ต้องรอดูรายละเอียดอีกครั้ง
ต่อมา พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์กลาง (ผบก.พฐก.) ในฐานะ กรรมการการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิต “อดีตผู้กำกับโจ้” ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเข้าเรือนจำกลางคลองเปรม ว่า วันนี้เป็นการเข้ามาทำภารกิจในส่วนของการจำลองเหตุการณ์โดยได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น จากวันที่ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการประชุมที่ สน.ประชาชื่น และได้สั่งการให้กองพิสูจน์หลักฐานกลางเข้ามาจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิต
พล.ต.ต.วาที กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้เตรียมสิ่งของจริงในที่เกิดเหตุมาทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะนำมาใช้จริงในการจำลองเหตุการณ์ แต่จะใช้กับหุ่นจำลองหรือคนนั้นจะต้องพิจารณาอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าวันนี้มีความพร้อมไม่ว่าจะเป็นการใช้คนหรือหุ่น โดยการจำลองวันนี้มุ่งเน้นไปที่การใช้ผ้าขนหนูประมาณ 1 เมตร พิสูจน์ว่าเป็นไปได้จริงหรือไม่ที่เป็นสาเหตุทำให้อดีตผู้กำกับโจ้เสียชีวิต ทั้งนี้ ไม่ว่าหุ่นหรือคนจะต้องเป็นขนาดเดียวกันกับตัวผู้เสียชีวิต เพราะจะมีผลกับการทิ้งตัวลงมาเมื่อใช้ผ้าขนหนูผูกกับลูกกรง

พล.ต.ต.วาที กล่าวอีกว่า คดีนี้ได้รับการกำกับมาจาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าเป็น คดีสำคัญและเป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชนจำเป็นต้องทำให้สิ้นความสงสัย ทั้งนี้ หลักฐานที่อยู่ในที่เกิดเหตุทางกองพิสูจน์หลักฐานกลางยืนยันว่าได้เก็บรวมไปอย่างเรียบร้อยตั้งแต่วันแรกที่ได้เข้าพื้นที่แล้วมีความสมบูรณ์มากที่สุด
ผู้บังคับการกองพิสูจน์กลาง ระบุถึง ประเด็นของ DNA ในที่เกิดเหตุ ว่า กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ได้ส่งผลตรวจให้พนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้วยืนยันว่าไม่พบสิ่งผิดปกติ ไม่มี DNA บุคคลอื่นยุ่งเกี่ยวในที่เกิดเหตุ ผลค่อนข้างมีความชัดเจน และในส่วนไฟล์เสียงการสนทนากับครอบครัวก่อนเสียชีวิตเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังไม่ได้รับจากเรือนจำ ได้รับเพียงกล้องวงจรปิดตัวสมบูรณ์ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ทาง คณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย (พ.ร.บ.อุ้มหาย) ทยอยเดินเข้ามายังเรือนจำกลางคลองเปรม เพื่อร่วมตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ส่วนจะมีการขอดูกล้องวงจรปิดและไฟล์เสียงหรือไม่ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าจะต้องหารือเพื่อดูกรอบอำนาจหน้าที่ว่ามีมากน้อยเพียงใด
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 13.30 น. ของวันเดียวกัน ณ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยความคืบหน้าการประชุม ว่า วันนี้มีการประชุมร่วมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย โดยพิจารณาว่าหน่วยงานใดจะรับผิดชอบในคดีนี้ รวมทั้งได้นัดญาติ อดีตผู้กำกับโจ้มาให้การเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ต้องการนัดสอบปากคำด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน และไม่ได้เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ

สำหรับคดี อดีตผู้กำกับโจ้ มีคดีชันสูตรพลิกศพ ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับผิดชอบ และ คดีทำร้ายร่างกายในเรือนจำ มีการขยายผลเป็นตามความผิด พ.ร.บ.อุ้มหาย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย สน.ประชาชื่น เป็นผู้รับผิดชอบแล้ว ซึ่งจะมี พนักงานอัยการ สำนักงานสอบสวน เป็นผู้กำกับดูแลในคดีนี้ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ส่วนคณะอนุกรรมการฯ มีหน้าที่ติดตามดูว่าคดีมีความคืบอย่างไรซึ่งต้องแจ้งให้ทางคณะชุดใหญ่รับทราบต่อไป
ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวอีกว่า ส่วนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย (คณะชุดใหญ่) จะมีผู้แทนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดีเอสไอ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมการปกครอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอีกหลายหน่วยงานร่วม โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานฯ
เมื่อถามว่า สำหรับ พ.ร.บ.อุ้มหาย จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่ นั้น ร.ต.อ.วิษณุ เผยว่า ในการแจ้งข้อหาความผิด พนักงานอัยการจะเป็นผู้ชี้ขาด ส่วนใหญ่ตามมาตรา 5 , 6 , 7 แต่ต้องจะดูข้อเท็จจริงว่าเข้าองค์ประกอบมาตราใด ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนและอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
“ส่วน การประชุมคณะอนุกรรมการฯ วันที่ 17 มี.ค.นี้ จะเป็นการสอบถามติดตามความคืบหน้าคดี และจะนำผลการสอบสวนญาติในประเด็นข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ เข้าในที่ประชุมด้วย ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สน.ประชาชื่น ได้สอบสวนคดีทำร้ายร่างกายและชันสูตรศพ แต่ยังไม่เป็นคดีตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย เพราะไม่มีอัยการเข้ามาร่วม” ร.ต.อ.วิษณุกล่าวสรุป.