กรมทรัพย์สินฯ จับมือองค์การสวนสัตว์ฯ ดัน ‘หมูเด้ง’ เพิ่มมูลค่าคาแรกเตอร์ ดังไกลระดับโลก
กรมทรัพย์สินทางปัญหา นัดประชุมร่วมกับ “องค์การสวนสัตว์ฯ” ดัน “หมูเด้ง” และสัตว์อื่นๆ ในสวนสัตว์ วางแผนต่อยอดพัฒนาคาแรกเตอร์ของสรรพสัตว์ในสังกัด หวังสร้างความโดดเด่นให้น่าสนใจ และกลายเป็นภาพจำ จนดังไกลในระดับโลก พ่วงสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดการประชุมหารือร่วมกับ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อวางแนวทางใน การผลักดันการปกป้องคุ้มครองและบริหารสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่เกี่ยวข้องกับ “หมูเด้ง” ฮิปโปโปเตมัสแคระชื่อดัง รวมถึงสัตว์อื่นๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยองค์การสวนสัตว์ฯ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ยังมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาคาแรกเตอร์ให้มีความโดดเด่น พร้อมต่อยอดมูลค่าในเชิงพาณิชย์ผ่านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อสร้างโอกาสในการส่งออกคอนเทนต์ของไทยให้มากขึ้น สร้างมูลค่าทางธุรกิจ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตในระดับสากลด้วยทรัพย์สินทางปัญญาอย่างยั่งยืน
นางสาวนุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการสร้างสรรค์ผลงานทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์อันนำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยกรมฯ ได้จับมือกับ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ผลักดันการพัฒนาคาแรกเตอร์ “หมูเด้ง” ฮิปโปโปเตมัสแคระชื่อดังให้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อสร้างความแตกต่าง และนำไปต่อยอดเป็น Soft Power ที่ทรงพลัง ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ เช่น ของที่ระลึก สื่อสร้างสรรค์ และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยและสร้างมูลค่าเพิ่มในระดับสากล
ด้าน นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ไม่เพียงช่วยยกระดับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ฯ เช่น “หมูเด้ง” แต่ยังเปิดโอกาสให้เราได้นำเสนอความเป็นเอกลักษณ์ของสัตว์หายากและเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจ ผ่านผลิตภัณฑ์และกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ซึ่งนอกจาก จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว ยังสร้างรายได้กลับคืนสู่ประเทศในหลายมิติ นอกจากนี้ การนำ “หมูเด้ง” และสัตว์อื่นๆ มาพัฒนาคาแรกเตอร์และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ยังช่วยสะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้าน Soft Power ผ่านการผสมผสานทรัพย์สินทางปัญญา วัฒนธรรม และนวัตกรรมเข้าด้วยกัน โดยรายได้จากการดำเนินงานดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนกิจกรรมที่จะทำให้สัตว์ป่ามีชีวิตที่ดีขึ้น
นางสาวนุสรา กล่าวทิ้งท้ายว่า “การผลักดันหมูเด้งและทรัพย์สินทางปัญญาอื่นๆ ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในประเทศ แต่คือการเปิดประตูให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน Creative Content บนเวทีโลก ได้เห็นถึงศักยภาพของคอนเทนต์ไทย ที่สามารถสะท้อนเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบที่ดึงดูดใจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างอิทธิพลเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในระดับโลก และยังมีศักยภาพที่จะสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในตลาดโลกได้อย่างมีนัยสำคัญ”.