“ดีอีเอส-รัฐไทย” หน้าหงาย! ศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้อง ระบุ! เว็บไซต์มังกรฟ้าและเว็บอื่นที่ค้าสลากฯออนไลน์ไม่ใช่ผู้กำหนดราคา เป็นแค่ตัวกลางซื้อขาย  ไม่มีเอี้ยวกำหนดราคาขายเผย! งานนี้อาจมีรายการย้อนเกล็ดฟ้องกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ว่า เมื่อช่วงสายวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ศาลได้นัดฟังคำสั่งคดีที่ กระทรวงดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลอาญามีคำสั่งระงับการเผยแพร่หรือลบเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสลากออนไลน์ อาทิ เว็บไซต์มังกรฟ้า เเละอีก 5 เว็บที่ลักษณะการดำเนินงานคล้ายกัน ทั้งนี้ ศาลได้มีคำสั่งสรุปว่า เว็บไซต์มังกรฟ้าของ บริษัท บลูดราก้อน เพียงแต่ผู้รวบรวมสลาก ส่วนการกำหนดราคาขายเป็นของผู้ค้า ซึ่งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถกำหนดราคากันเอง โดยบริษัทตัวกลางไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกำหนดราคา ดังนั้น จึงฟังไม่ได้ผู้ถูกร้องทั้งหมดมีความผิดตาม พรบ.สลากกินแบ่งแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่มีการปิดบังบาร์โค้ค งวดที่ และวันที่ ทำให้สลากไม่สมบูรณ์ ถือเป็นการบิดเบือนหรือทุจริตหรือไม่นั้น ศาลวินิจฉัยว่า แม้การกระทำดังกล่าวเป็นการบิดเบือนฉลากให้แตกต่างไปจากความเป็นจริง แต่ไม่ได้ขายสลากเกินราคาที่กำหนด จึงไม่ถือเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ อีกทั้งการกระทำข้างต้นไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล และพ.ร.บ.การพนัน จึงไม่ทำให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเกิดความเสียหาย ดังนั้น จึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 ศาลจึงไม่อาจมีคำสั่งระงับสัญญาณช่องทางของบริษัทบลูดาก้อนและในเครือข่ายหยุดการดำเนินงานได้ ส่วนเว็บไซต์อีกสองเว็บที่ไม่ได้เข้ามาซักค้าน ศาลฟังว่ามีความผิด ให้ระงับสัญญาณ และได้มีคำสั่งยกคำร้อง

นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความของกลุ่มมังกรฟ้า เปิดเผยภายหลังทราบว่าศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้อง ว่า ศาลมีคำพิพากษาชัดเจนว่าเเพลตฟอร์มมังกรฟ้าไม่ใช่ผู้ขายสลากโดยตรงและไม่ใช่ผู้กำหนดราคา โดยคนกำหนดราคาเป็นผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งมังกรฟ้าเป็นแค่ตลาดที่ได้ค่าบริการ และค่าดำเนินการ 4-5 บาทต่อใบ ประเด็นนี้ศาลได้วินิจฉัยชัดเจนว่ามังกรฟ้าไม่ได้ขายหวยเกินราคา  โดยย้ำว่า…วันนี้ถือว่าเรากู้ศักดิ์ศรีของมังกรฟ้าได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางทีมทนายและผู้บริหารเว็บไซต์ขายหวยออนไลน์ อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะดำเนินการฟ้องร้องกลับทั้งคดีทางปกครอง คดีอาญา และคดีแพ่ง เพื่อเอาผิดกับดีอีเอสและตัวแทนผู้ฟ้องร้องดำเนินคดีหรือไม่? เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวทำให้บริษัทได้รับความเสียหายด้านชื่อเสียงและภาพลักษณ์องค์กร จากการเข้าตรวจค้นและอายัดสลากฯเป็นของกลาง รวมถึงทำให้บริษัทขาดรายได้ ในช่วงที่ถูกดำเนินคดี.