บอร์ด กอช. รับลูกกระทรวงการคลัง ไฟเขียวเห็นชอบแนวทาง วิธีการดำเนินการ “โครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ”  หรือสลากเกษียณฯ (หวยเกษียณฯ) ด้าน “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” เผย! คลังพร้อมเร่งชงเข้า ครม. ก่อนผลักดัน แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. กองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 ต่อไป เหตุคนไทยต่างเฝ้ารอหวยเกษียณฯ

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การประชุม คณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (บอร์ด กอช.) เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2567 มีมติเห็นชอบแนวทางส่งเสริมการออมทรัพย์เพื่อรองรับการเกษียณแก่ประชากร สอดคล้องกับสถานการณ์ผู้สูงอายุ และโครงสร้างประชากรในประเทศ โดยใช้วิธีการดำเนินการ “โครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ” (สลากเกษียณฯ) ตามที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งขั้นตอนต่อไป หลังจากกระทรวงการคลังได้รับรายงานการประชุม บอร์ด กอช. แล้ว จะพิจารณานำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการ จากนั้น จะเข้าสู่กระบวนการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. กองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 ต่อไป ซึ่งขณะนี้ ตนได้สั่งการให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุดภายใต้กรอบกฎหมาย เนื่องจากพี่น้องประชาชนต่างเฝ้ารอ “หวยเกษียณ”

สำหรับรายละเอียดเบื้องต้นของสลากเกษียณฯ มีดังนี้

1.กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ออกสลากขูดแบบดิจิทัล ใบละ 50 บาท เพื่อขายให้กับสมาชิก กอช. ผู้ประกันตน ม. 40 และแรงงานนอกระบบ (กลุ่มเป้าหมายจะเพิ่มเติมภายหลัง) ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อเดือน

2.สามารถซื้อสลากได้ทุกวัน แต่ออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลา 17.00 น. ผู้ถูกรางวัลจะได้เงินรางวัลทันที โดยที่เงินค่าซื้อสลากถูกเก็บเป็นเงินออม แม้ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม

3.รางวัลของ “ทุกวันศุกร์” กำหนดดังนี้ (อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม)

3.1 รางวัลที่ 1 จำนวน 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล

3.2. รางวัลที่ 2 จำนวน 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล

4.“เงินค่าซื้อสลากทั้งหมดจะเป็นเงินออมของผู้ซื้อสลาก” (เงินสะสม) ซึ่งจะนำเงินส่งเข้าบัญชีเงินออมรายบุคคลกับ กอช. โดย กอช. จะเป็นผู้บริหารจัดการเงินจำนวนดังกล่าว และเมื่อผู้ซื้อสลากอายุครบ 60 ปี จะสามารถถอนเงินทั้งหมดที่ซื้อสลากมาทั้งชีวิตออกมาได้

อนึ่ง เงินเงินรางวัลดังกล่าวเป็นเงินจากงบประมาณราวปีละ 700 ล้านบาทเศษ โดยจะไม่กระทบกับงบประมาณแผ่นดิน ส่วนสลากเป็นสลากขูดแบบดจิทัล ซื้อขายและโอนเงินผ่านแอพพลิเคชั่นของ กอช. ที่สามารถจะรองรับจำนวนผู้ซื้อที่คาดว่าจะเพิ่มจากสมาชิกเดิมของ กอช. จาก 3 ล้านรายเป็น 20 ล้านราย และเพิ่มจำนวนเงินออมของประเทศได้เป็นจำนวนมหาศาล.