เอ็มดี. ธอส. คาด! เฟดคงอัตราดอกเบี้ย สกัดปมซ้ำเติมปัญหาแบงก์ล้มในสหรัฐฯ พร้อมคงดอกเบี้ยเงินกู้ ธอส. ออกไปจนถึงกลางปีเป็นอย่างต่ำ เผย! เตรียมตัดขายทรัพย์ NPL สิ้นปีนี้อีก 1 หมื่นล้านบาท โดยยังคงจัดขายทรัพย์มือสองเช่นทุกปีต่อไป

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจ หลังเกิดวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกา ว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบถึงไทยมากนัก เนื่องจากสถาบันการเงินของไทยไม่ได้ร่วมทำธุรกิจหรือลงทุนกับธนาคารในสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน เชื่อว่าสถานการณ์นี้ ธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากจะเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ให้มันรุนแรงขึ้น และจากการที่เฟดได้เข้ามาแก้ไขปัญหา โดยอัดเงินเข้าสู่ระบบธนาคารในสหรัฐฯ ก็น่าจะทำให้ปัญหาดังกล่าวเริ่มคลี่คลายได้เร็วขึ้น

ทั้งนี้ หากเฟดไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็จะไม่ส่งผลกระทบไปยังระบบการเงินของโลก รวมถึงของไทยด้วย โดยในส่วนของ ธอส.จะยังคงอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งระบบที่ระดับ 4.25% ต่อไปจนถึงกลางปี 2566 เป็นอย่างต่ำ นอกจากนี้ ในส่วนการดำเนินงานของ ธอส.เอง ในปลายนี้ ก็มีแผนจะนำทรัพย์สิน NPL ที่มีอยู่กว่า 6 หมื่นล้านบาท ออกไปจำหน่ายจำนวน 1 หมื่นล้านบาท ให้กลุ่มบริษัทบริหารสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น BAM, SAM หรือบริษัทบริหารสินทรัพย์อื่นๆ ทั้งนี้ เพื่อลดภาระดำเนินงานในส่วนของทรัพย์สิน NPL

อย่างไรก็ตาม การตัดขายทรัพย์สิน NPL ไม่สร้างปัญหาต่อการตั้งสำรองสินทรัพย์ เนื่องจาก ธอส.มีการตั้งสำรองเกินมาตรฐานที่ทางการได้กำหนดไว้อยู่แล้ว ส่วนการจัดกิจกรรมขายทรัพย์มือสองของ ธอส.ในปีนี้ ก็จะดำเนินการต่อไปตามแผนงานเดิมที่วางไว้.