เสนาฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ให้ผู้ลงทุนทั่วไป อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.70% – 4.90% 

เสนาดีเวลลอปเม้นท์ หรือ SENA เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2566 ให้ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.70% – 4.90% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้อยู่ที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “ลบ” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด

ผศ. ดร. เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ เสนาดีเวลลอปเม้นท์ หรือ SENA เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2566 ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่อยู่ในช่วง 4.70% – 4.90% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้อยู่ที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “ลบ” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2565 โดยหุ้นกู้ชุดใหม่นี้เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ คาดว่าจะเปิดจองซื้อช่วงเดือนมกราคม –กุมภาพันธ์ 2566 ผ่าน 6 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารกรุงไทย (KRUNGTHAI) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) บล.เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (KKPS) บล.เอเซีย พลัส จำกัด (ASP) และ บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (KTX) โดยระยะเวลาจองซื้อและอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะกำหนดและแจ้งให้ทราบอีกครั้ง 

สำหรับวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อเตรียมเงินทุนไว้สำหรับการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จำนวน 1,800 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ โดยปัจจุบัน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้ที่ระดับ ”BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “ลบ” ซึ่งสะท้อนถึงผลงานของบริษัทที่เป็นที่ยอมรับในตลาดที่อยู่อาศัยในระดับราคาปานกลางถึงต่ำ และสัดส่วนรายได้จากการลงทุนในบริษัทร่วมทุนที่อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยที่อยู่ในระดับสูงและเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้กำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าของบริษัทลดต่ำลง ขณะที่ต้นทุนในการพัฒนาโครงการและต้นทุนทางการเงินของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น

ส่วนของภาพรวมผลดำเนินงานช่วง 9 เดือนปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 2,466 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้เช่าและบริการและสามารถทำกำไรสุทธิได้ 693 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2565  บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 9,381 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือของปี 2565 ประมาณ 6,345 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ถึงปี 2567 ขณะเดียวกันบริษัทยังมีสินค้าพร้อมขาย (Remaining) มูลค่ารวม 22,851 ล้านบาท เป็นสินค้าพร้อมโอน (Ready tomove) มูลค่ารวม 4,956 ล้านบาท 

โดยในไตรมาส 4/2565 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,972 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการ เฟล็กซี่ สาทร – เจริญนคร เฟส 2, 2.โครงการเสนาคิทท์ รัตนาธิเบศร์ – บางบัวทอง, 3.โครงการ เสนา พาร์ค วิลล์ รามอินทรา – วงแหวน เฟส 2, 4.โครงการ เสนา วีว่า เทพารักษ์ – บางบ่อ และ 5.โครงการเสนา เวล่า รัตนาธิเบศร์ – บางบัวทอง

ขณะเดียวกันมีการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ นิช โมโน รามคำแหง และโครงการ นิช โมโน แจ้งวัฒนะ เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา  และมีการส่งมอบโครงการมากขึ้นและมีการเปิดขายโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง คาดว่าสามารถเป็นไปตามเป้ายอดขายที่วางไว้ 13,979 ล้านบาท และเป้ายอดโอนกรรมสิทธิ์ 12,188 ล้านบาท  ในปี 2566 ทางเสนาฯ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งเป็นโรดแมปสำคัญในการพัฒนาคุณภาพของธุรกิจอสังหาฯ และต่อยอดไปยังธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสังคม สุขภาพ สิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี  สามารถตอบโจทย์ชีวิตของคนในสังคมอย่างหลากหลายมากขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด พร้อมยกระดับการพัฒนาบ้านติดโซลาร์สู่การพัฒนาบ้านพลังงานเป็นศูนย์ หรือ Zero Energy Housing (ZEH) เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจสู่ความยั่งยืนสู่ Carbon Neutrality และ Net Zero 

เสนาฯ มุ่งมั่นสร้างสรรค์องค์กรจาก Real Estate Developer สู่การเป็น Lifelong Trusted Partner นับจากนี้เสนาไม่ได้เป็นเพียงแค่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่เราเป็นเสมือนเพื่อนคู่คิด พร้อมอยู่ในทุกช่วงชีวิตของลูกค้า จึงเป็นที่มาของนิยาม “The Essential Lifelong Trusted Partner” ในปี 2566  

“สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบันเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะมองว่าหุ้นกู้เสนาฯ เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาโอกาสลงทุน ในบริษัทที่มีความมั่นคง มีความน่าเชื่อถือ โดยสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจได้ตลอดการถือครอง” ผศ. ดร. เกษรา กล่าวทิ้งท้าย.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password