กรุงไทยผุดมิติใหม่ ‘ดิจิทัลเพย์เม้นท์’ เปิดตัวซูเปอร์วอลเล็ต ‘เป๋าตังเปย์’ เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่  

“ธนาคารกรุงไทย” จับมือ “ อินฟินิธัส”ยกระดับดิจิทัลเพย์เม้นท์ เปิดตัวบริการใหม่ “เป๋าตังเปย์” สร้างประสบการณ์ใหม่ตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด เน้นจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ รุกหนักภายใต้แนวคิด “เปย์ไปมีแต่ได้” ชูจุดแข็ง Thailand Open Digital Platform เชื่อมต่อทุกการใช้จ่าย ให้ “เปย์สนุก” กับทุกการใช้จ่าย “เปย์ครบ” ทุกรูปแบบการใช้จ่าย เติม โอน จ่ายบิล “เปย์คุ้ม” ยิ่งใช้ยิ่งได้ส่วนลด และสิทธิประโยชน์มากมาย คาดมีผู้ใช้งานกว่า 5 ล้านรายภายในปีหน้า ด้าน “ผยง ศรีวณิช” ยอมรับ ตั้งเป้าต่ำไป เชื่อตัวเลขผู้สมัครและวงเงินใช้จ่ายจริงสูงกว่านี้เยอะ เผย! ไม่เกิน 3 ปี ยกชั้นขึ้นเป็น “ซูเปอร์วอลเล็ต” ตั้งเป้ายกระดับการใช้จ่ายแบบทะลุทะลวง “คนไทยจ่ายนอกประเทศ – นักท่องเที่ยวต่างชาติสมัครใช้จ่ายในไทย”

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย แถลงเปิดตัว “เป๋าตังเปย์ (Paotang Pay)” หนึ่งในบริการรูปแบบใหม่ของแอปฯ เป๋าตัง ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ซูเปอร์แอปฯ” ที่มีผู้ใช้บริการราว 40 ล้านคน ติดอันดับ 3 ของโลกรองจากจีนและอินเดีย รวมถึงยังเป็นแอปฯที่ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในต่างๆ แก่นักลงทุนทุกระดับ รวมกันมากกว่า 1 แสนล้านบาท โดย ธนาคารร่วมกับ บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย ได้พัฒนา “เป๋าตังเปย์” (Paotang Pay) ให้เป็นซูเปอร์วอลเล็ตของคนไทย เพิ่มศักยภาพดิจิทัลเพย์เม้นท์แอปฯ “เป๋าตัง” ให้ครบวงจรมากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งนี้ “เป๋าตังเปย์” ถูกวางเป้าหมายให้เป็น “ซูเปอร์วอลเล็ต” ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่แก่คนรุ่นใหม่ และตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด ภายใต้แนวคิด “เปย์ไปมีแต่ได้” เพื่อตอกย้ำการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมไร้เงินสดอย่างยั่งยืน คาดว่าจะมีผู้ใช้งานกว่า 5 ล้านราย ภายในสิ้นปี 2566

“ที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทย ในฐานะ ผู้นำดิจิทัลแบงกิ้งของไทย ได้วางยุทธศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ใน 5 Ecosystems หลัก ทั้งบริการภาครัฐ การศึกษา การขนส่งมวลชน สุขภาพและการรักษาพยาบาล รวมถึงการชำระเงิน ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการหลักของระบบธนาคาร และเป็นปัจจัยสนับสนุนทุกกิจกรรมในระบบเศรษฐกิจ โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รูปแบบการชำระเงินของไทยเปลี่ยนแปลงไปสู่การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Digital Payment อย่างชัดเจน จากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ประชาชนหันมาใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลแทนเงินสดมากขึ้น” นายผยง ซ้ำและว่า

จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย ล่าสุด ณ เดือนกันยายน 2565 พบการใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) เพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 400 รายการต่อคนต่อปี จากปี 2564 อยู่ที่ 312 รายการต่อคนต่อปี และปี 2563 อยู่ที่ 202 รายการต่อคนต่อปี โดยช่องทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Internet & Mobile Banking มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 133 ล้านบัญชี มีปริมาณธุรกรรม 2,139 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 48.6% มูลค่ารวม 8.43 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังมีธุรกรรมที่เติบโตสูงคือ บริการชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ซึ่งเป็นการชำระเงินของคนรุ่นใหม่ มีไลฟ์สไตล์ชอบความสะดวก รวดเร็ว ทำธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์บนมือถือ โดยมีจำนวนผู้ใช้งานถึง 122.6 ล้านบัญชี ปริมาณธุรกรรม 302 ล้านรายการต่อเดือน เพิ่มขึ้น 38.5% มูลค่ารวม 5.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กรรมการผู้จัดการใหญ่ ตอบคำถามสื่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับ ตัวเลขประมาณการของผู้ใช้ “เป๋าตังเปย์” ในปีหน้าที่ดูจะมีน้อยมาก เมื่อเทียบกับฐานผู้ใช้เดิมราว 40 ล้านคนของแอปฯเป๋าตัง โดยเฉพาะสัดส่วนคนรุ่นใหม่ที่มีราว 30% หรือ 12 ล้านคน แต่ตั้งเป้าทุกกลุ่มในภาพรวมไว้แค่ 5 ล้านคน ว่า ส่วนตัวเชื่อว่าตัวเลขของผู้ใช้งานจริง ณ สิ้นปี 2566 น่าจะสูงกว่านี้มาก ส่วนจะเป็นเท่าใด และจะมีวงเงินการใช้จ่ายแค่ไหน คงต้องรอดูกันไปก่อน

สำหรับการนำ “เป๋าตังเปย์” ที่คาดว่าจะใช้เวลาราว 3 ปีจึงจะก้าวสู่ความเป็น “ซูเปอร์วอลเล็ต” ไปใช้จ่ายในประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถสมัครลงทะเบียนเพื่อใช้จ่ายในประเทศไทยนั้น โดยเทคโนโลยีสามารถทำได้ อีกทั้งแนวคิดการเปิดกว้าง (Open) นั้น เชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาที่ไม่นานนับจากนี้ เพราะทั้งหมดอยู่ในแผนงานของธนาคารอยู่แล้ว ส่วนจะมีการปรับรูปแบบการใช้จ่ายในปัจจุบัน จากเดิมเป็นระบบเดบิต (โอนเงินเข้าวอลเลต หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล) ไปสู่ระบบเครดิตได้หรือไม่นั้น ก็เป็นสิ่งที่ธนาคารให้ความสนใจและศึกษาความเป็นไปได้อยู่เช่นกัน

ด้าน นางประราลี รัตน์ประสาทพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัด ผู้พัฒนาแอปฯ เป๋าตัง กล่าวว่า ทิศทางการชำระเงินในอนาคตมุ่งสู่ Digital Payment อย่างชัดจน จากรายงาน Global Payments ของ World Pay ชี้ว่า ปัจจัยสนับสนุนคือ 1.ความนิยมซูเปอร์แอป หรือแอปฯที่รวมฟังก์ชันต่างๆเข้าด้วยกัน เพราะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การใช้จ่ายแบบครบวงจรจากแพลตฟอร์มเดียว 2.ผู้บริโภคชอบการชำระเงินที่มีความคล่องตัว ใช้งานง่าย และรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องพกเงินสด 3.ผู้ให้บริการ e-Commerce ชั้นนำ ต่างเปิดรับการชำระเงินด้วยวอลเล็ต รวมถึงเปิด วอลเล็ตของตัวเอง เพิ่มช่องทางการรับชำระค่าสินค้าและบริการให้ผู้บริโภค 4.มีช่องทางการเติมเงินเข้าวอลเล็ตที่หลากหลายขึ้น ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัญชีธนาคาร เป็นต้น 5.การชำระเงินแบบไร้สัมผัส มีการเร่งตัวขึ้น โดยผู้บริโภคเริ่มใช้เงินสดน้อยลงและใช้วอลเล็ตมากขึ้น

จากทิศทางดังกล่าว บริษัทจึงพัฒนา “เป๋าตังเปย์” ให้เป็นบริการอีกขั้นของการชำระเงินในรูปแบบซูเปอร์วอลเล็ตบนแอปฯ เป๋าตัง ที่ผสานความสามารถของ Bank App และ e-Wallet เข้าด้วยกันให้บริการแบบ Open Loop เป็นวอลเล็ตแรก โดยใช้ QR พร้อมเพย์ เป็นตัวกลาง ทำให้สามารถการโอนจ่าย ได้ทุกธนาคาร เปิดกว้างทุกการใช้จ่าย ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้จ่ายทุกร้านค้าได้อย่างอิสระ ไม่ต้องสมัครหลายใบ หรือ เปิด-ปิดหลายแอปฯ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ มุ่งขยายฐานผู้ใช้งานกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยเริ่มต้นทำงานที่มีเพียง 30% บนแอปฯเป๋าตังเป็นหลัก

เพื่อให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง “เป๋าตังเปย์” จึงถูกออกแบบและพัฒนาโดยทีมคนรุ่นใหม่ INFINITAS NEXT GEN TEAM ภายใต้แนวคิด “เปย์ไปมีแต่ได้” ครอบคลุมทั้งบริการโอนเงิน เติมเงิน สแกนจ่ายผ่านคิวอาร์พร้อมเพย์ได้ทุกธนาคาร และทุกร้านค้าทั่วไทย รวมถึงใช้ชำระบิลค่าน้ำไฟโทรศัพท์ บัตรเครดิต ประกัน หรือ ค่าธรรมเนียมหน่วยงานภาครัฐ มาพร้อมสิทธิประโยชน์และภารกิจสนุกๆ เพื่อพิชิตคูปองส่วนลดมากมาย

นอกจากนี้ เพื่อให้สามารถใช้จ่ายได้ทุกร้านทั่วไทยอย่างแท้จริง ยังได้เปิดตัว บัตรเพลย์ (PLAY) บัตรที่เชื่อมกับเป๋าตังเปย์ ผสานการใช้งานออนไลน์-ออฟไลน์ ใช้ชำระค่าโดยสารระบบขนส่งมวลชน แบบ Contactless แตะจ่ายได้ทั้งรถ ราง และทางด่วน ใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ และรูดจ่ายผ่านเครื่อง EDC Payment โดยจะ ยกเว้นค่าธรรมเนียมในการออกบัตร เมื่ออกบัตรภายในวันที่ 31 มกราคม 2566 และใช้จ่ายผ่านบัตรเพลย์ ครบ 1,000 บาท/บัตร/เดือน รับสิทธิ์รับเครดิตเงินคืนเข้าเป๋าตังเปย์ 45 บาทต่อเดือน (จำกัด 1,000 สิทธิ์/เดือน) ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 – 28 กุมภาพันธ์ 2566

ด้าน นางสาวสุพร สุนทรโรหิต Chief Business Innovation Officer บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จํากัด กล่าวว่า “เป๋าตังเปย์” พร้อมมอบความสะดวกสบายให้ผู้ใช้งานได้อย่างไร้รอยต่อ เพียงแค่มีแอปฯ เป๋าตัง ก็สมัครใช้งานได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียงกรอกข้อมูลบัตรประชาชนข้อมูล CDD (Customer Due Diligence) สแกนใบหน้ายืนยันตัวตน หากสมัครเป๋าตังเปย์สำเร็จ จะสามารถกดสมัครบัตรเพลย์บนแอปฯ เป๋าตังได้ทันที สะดวก และสามารถเติมเงินได้หลายช่องทาง ทั้ง G-Wallet Krungthai NEXT และ Mobile Banking ของทุกธนาคาร หรือผ่าน QR Code รับเงิน โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565

เป๋าตังเปย์และบัตรเพลย์ จะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับการใช้จ่ายของคนไทย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ “เปย์สนุก” “เปย์ครบ” ทุกธุรกรรม และ “เปย์คุ้ม” รับส่วนลดมากมาย เมื่อสมัครใช้งาน และใช้จ่ายผ่านเป๋าตังเปย์ที่ร้านค้าถุงเงิน เพียง 50 บาท รับส่วนลด 10 บาททันที สูงสุดคนละ 5 สิทธิ รวม 500,000 สิทธิ และเจ่ายเพียงบาทเดียว เมื่อซื้อ Wall’s จำกัด 150,000 สิทธิ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน –31 ธันวาคม 2565 นอกจากนี้ ยังมีคูปองส่วนลดช้อปปิ้ง กิน เที่ยว ทุกเดือนกับพาร์ทเนอร์อีกจำนวนมาก สมัครได้แล้ววันนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://krungthai.com/th/content/personal/paotang-pay หรือ Krungthai Contact Center 02-111-1111.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password