BAM ผนึก 2 พันธมิตรใหม่ เร่งสร้างยอดขายทรัพย์ ด้วยกลยุทธ์ NPAs Smart Agent ผ่าน ‘ตัวแทนขาย – มืออาชีพปล่อยกู้’

BAM จับมือ Agentplus และ MBKG เปิดตัวโครงการ “NPAs Smart Agent” เพิ่มประสิทธิภาพการขายทรัพย์ NPA ผ่านระบบนายหน้ามืออาชีพ พร้อมผสานบริการสินเชื่อครบวงจร ช่วยให้ลูกค้าซื้อ–กู้ได้ในที่เดียว เผย! เบื้องต้นมีทรัพย์รวมเกือบ 800 ชิ้น มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ส่วนเรทดอกเบี้ยเงินกู้ Non-Bank ไม่เกิน 10% เติมเต็มกลุ่มลูกค้าไม่ผ่านเกณฑ์แบงก์

วันนี้ (4 ธ.ค.2568) บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ดินหน้าขยายศักยภาพด้าน การจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ผ่าน การลงนามความร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัท เอ็ม บี เค การ์ด จำกัด (MBKG) และ บริษัท เอเจ้นท์พลัส (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการ “NPAs Smart Agent” ระบบบริหารการขายทรัพย์ NPA ที่ใช้เทคโนโลยีและเครือข่ายนายหน้ามืออาชีพเข้ามาเพิ่มช่องทางการตลาด ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ และสนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสยิ่งขึ้น
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM กล่าวว่า BAM ในฐานะผู้บริหารสินทรัพย์ที่มีปริมาณ NPA ใหญ่ที่สุดของประเทศ มุ่งยกระดับการให้บริการลูกค้าผู้สนใจซื้อทรัพย์ โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาสร้างระบบการทำงานที่ทันสมัย และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์มีส่วนร่วมในกระบวนการขายมากขึ้น ผ่านความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Agentplus และ MBKG ในครั้งนี้
การจับมือกับ Agentplus ซึ่งเป็นบริษัทเชี่ยวชาญด้านงานนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ จะช่วยให้ทรัพย์ NPA ของ BAM เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้ออย่างกว้างขวางและเป็นระบบมากขึ้น โดยเฉพาะ กลุ่มลูกค้ารายย่อยและผู้ที่ต้องการข้อมูลและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ ทั้งนี้ ระบบ Smart Agent จะออกแบบให้ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบข้อมูลทรัพย์ได้อย่างโปร่งใส มีมาตรฐานเดียวกัน และสามารถติดต่อซื้อขายผ่านเครือข่ายนายหน้าที่ผ่านการรับรองได้โดยตรง

ขณะเดียวกัน MBKG จะเข้ามาช่วยเติมเต็มกระบวนการด้านการเงิน โดยสนับสนุนบริการสินเชื่อให้แก่ลูกค้าที่ต้องการซื้อทรัพย์จาก BAM ผ่านกระบวนการที่สะดวก รวดเร็ว และเชื่อมโยงกับระบบของ Agentplus และ BAM อย่างเป็นหนึ่งเดียว ทั้งนี้ ลูกค้าที่สนใจซื้อทรัพย์ NPA จะสามารถยื่นกู้และรับคำแนะนำทางการเงินได้ในที่เดียว ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นและลดขั้นตอนซ้ำซ้อนในการจัดหาสินเชื่อด้วยตนเอง
โครงการ NPAs Smart Agent ถูกออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์มที่รวมข้อมูลทรัพย์ NPA อัปเดตแบบเรียลไทม์ พร้อมภาพถ่าย รายละเอียดเชิงลึก สถานะทางกฎหมาย และราคาที่ตรวจสอบได้ เพื่อยกระดับความโปร่งใสในการซื้อขาย ขณะเดียวกัน ระบบนายหน้าที่เข้าร่วมจะได้รับเครื่องมือการขายที่มีมาตรฐานเดียวกับองค์กรระดับประเทศ ทำให้สามารถนำเสนอทรัพย์ต่อผู้ซื้อได้อย่างมืออาชีพ และเพิ่มโอกาสปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ด้าน น.ส.ปณิมา ธีรวิริยากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเจ้นท์พลัส (ไทยแลนด์) กล่าวว่า การร่วมมือกับ BAM และ MBKG คือ ก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งกำลังเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีและความโปร่งใสเป็นหัวใจหลักของการแข่งขัน การบริหารกระบวนการขายบนระบบรวมศูนย์จะช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลครบถ้วน เข้าใจง่าย และตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยยกระดับมาตรฐานนายหน้าไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล

การที่ BAM เปิดโอกาสให้นายหน้ามืออาชีพเข้ามามีบทบาทสำคัญในโครงการ NPAs Smart Agent ถือเป็นการส่งเสริมระบบนิเวศอสังหาริมทรัพย์ไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ทั้งในมุมของการสร้างรายได้ การกระจายโอกาสทางธุรกิจสู่กลุ่มนายหน้า และการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองของประเทศ
ด้าน นายสุชาติ ธีรวชิราวุธ รองประธานกรรมการบริหาร MBKG ระบุว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้ลูกค้าที่ต้องการซื้อทรัพย์ NPA จาก BAM ได้รับบริการสินเชื่อที่มีความยืดหยุ่น รวดเร็ว และออกแบบให้สอดคล้องกับประเภททรัพย์และศักยภาพของผู้กู้มากยิ่งขึ้น MBKG จะใช้ข้อมูลร่วมกับระบบของ Agentplus เพื่อประเมินคุณสมบัติลูกค้าอย่างแม่นยำ ทำให้กระบวนการอนุมัติสินเชื่อเกิดขึ้นได้ภายในระยะเวลาที่สั้นลงอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ผู้บริหารทั้ง 3 หน่วยงานเชื่อมั่นว่า โครงการ NPAs Smart Agent จะช่วยสร้างประโยชน์สูงสุดทั้งต่อผู้ซื้อ นักลงทุน นายหน้า และระบบนิเวศอสังหาริมทรัพย์โดยรวม โดยหวังว่าจะเป็นต้นแบบความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจสินทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ และบริการทางการเงิน ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน

ในช่วงการถามตอบนอกรอบ ดร.รักษ์ ระบุว่า เบื้องต้นคาดว่าจะมีทรัพย์ในโครงการมากเกือบ 800 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าราว 3,000 บาท ซึ่งการที่ BAM มีพันธมิตรทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น ยิ่งเพิ่มโอกาสในการระบายทรัพย์ได้มากขึ้นเช่นกัน ส่วนเป้าหมายการขายทรัพย์ NPA ขึ้นกับโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาเรามีเจ้าสาว (พาร์ทเนอร์ชิป) ราว 5-6 ราย ตั้งแต่เดือน มิ.ย. – พ.ย.ที่ผ่านมา ยอดขายรวม 500 ชิ้น หรือราว 100 ชิ้น/เดือน คิดเป็นมูลค่าราว 400 ล้านบาท เพราะแต่ละชิ้นมีมูลค่าไม่สูงมากนัก สิ่งนี้ ก็น่าจะเป็นสถิติให้เจ้าสาวคนต่อไปได้ใช้เพื่อการตัดสินใจด้าน KPI ของตัวเองได้
ส่วน ปัญหาด้านวิกฤตทางเศรษฐกิจและปัจจัยลบอื่นๆ จะส่งผลต่อการดำเนินงานของ BAM หรือไม่? เรื่องนี้ ดร.รักษ์ ย้ำว่า BAM เกิดในท่ามกลางวิกฤต (Bad Bank) อยู่แล้ว ดังนั้น หากภาพรวมจะมีปัญหาวิกฤตใดๆ ก็ตาม เชื่อว่าจะสามารถยืนระยะในท่ามกลางปัญหาต่างๆ ได้ เห็นได้จากผลประกอบการของ BAM ในปีนี้กัน หรือแม้แต่โครงการทรัพย์มหาชนที่ได้เปิดตัวไปไม่นานมานี้ พบว่า มียอดขายไปแล้วทะลุ 500 ชิ้น ให้กับคนตัวเล็กที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ วันนี้ คนเหล่านั้นก็มีทางเลือกอย่าง MBKG สิ่งเหล่านี้ ก็น่าจะเป็นโมเมนตัมทางธุรกิจต่อไปได้ เชื่อว่า BAM น่าจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สามารถฝ่าวิกฤตไปได้ดีที่สุด

ด้านตัวแทนของ MBKG กล่าวว่า การพิจารณาสินเชื่อ บริษัทฯจะพิจารณาตามแนวทางของเรา เนื่องจากเป็นธุรกิจ Non Bank และลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มที่ไม่ผ่านการพิจารณาของธนาคารพาณิชย์ เราจึงเข้ามาเติมเต็มตรงจุดนี้ ส่วนอัตราดอกเบี้ย เราจะคิดอัตราผ่อนปรนเมื่อเทียบกับธุรกิจในลักษณะเดียวกัน และเป็นอัตราที่ยืดหยุ่น แต่ขึ้นอยู่กับทรัพย์เหล่านั้น ราวร้อย 10 โดยประมาณ ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการความร่วมมือครั้งนี้ประมาณ 20-30%
ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมใน ประเด็นสินทรัพย์ของ BAM ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ เกี่ยวกับเรื่อง ดร.รักษ์ ระบุว่า มีด้วยกันหลายร้อยชิ้น แต่ในมุมสินทรัพย์ไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับเรื่องที่ลูกค้าของเราได้รับผลกระทบกว่า 1,000 ราย สิ่งที่เราได้เห็นจากการลงไปพื้นที่และเห็นสภาพปัญหาของพวกเขา เมื่อกลับมาถึงสำนักงานใหญ่ ก็ปรับแผนใหม่จากเดิมที่คิดจะพักหนี้เป็นเวลา 3 เดือน ก็เพิ่มเป็น 6 เดือน ถือเป็นธุรกิจ AMC แรกที่ขยายเวลาการพักหนี้ นอกจากนี้ ยังหยุดการดำเนินคดีอีก 6 เดือน เพื่อให้พวกเขาได้มีโอกาสกลับมายืนอีกครั้ง ถือเป็นกำลังใจที่คนไทยมีให้กัน
“ส่วนผู้ที่ประสบปัญหาบ้านพังทลาย หรือต้องการมีบ้านใหม่ในพื้นที่ดังกล่าวนั้น BAM ก็มีทรัพย์ในโครงการทรัพย์มหาชน มากเพียงพอจะรองรับความต้องการในพื้นที่ภาคใต้ได้ ซึ่งทรัพย์ที่มีราคาถูกที่สุด มีมูลค่าเพียง 1แสนบาทต้นๆ เท่านั้น เชื่อว่าจะช่วยคนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเปิดโอกาสให้ผ่อนยาวๆ นานถึง 25 ปี” ดร.รักษ์ ระบุ.






