ค่ายกรุงไทยชี้! ส่งออก Q4/68 + ทั้งปี’69 อาจชะลอตัว เตือนจับตา! ความไม่แน่นอนจากชาติคู่หลัก

Krungthai Compass ชี้! ยอดส่งออกไทย ก.ย. 2568 ขยายตัว 19.0% รับแรงหนุนจากสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ และทองคำ เตือน! แนวโน้ม Q4/2568 และปี 2569 อาจชะลอตัว หลังแรง Front-loading เริ่มหมด พร้อมจับตาความไม่แน่นอนทางการค้าจากประเทศคู่หลัก

2 นักวิเคราะห์” จาก…ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย (Krungthai Compass) อย่าง…นายฉมาดนัย มากนวล และ นายกฤตตฤณ เหล่าฤทธิ์ มองปรากฏการณ์ การส่งออกของไทย ประจำเดือนกันยายน 2568 ที่ กระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 30,070.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งตัวจากเดือนสิงหาคมที่ขยายตัว 5.8% โดยเป็นการเติบโตต่อเนื่องของสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรม ในขณะที่ สินค้ากลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ส่วน การส่งออกทองคำขยายตัวสูงถึง 212.6% ซึ่งเมื่อหักทองคำออกแล้ว มูลค่าการส่งออกยังเติบโตได้ 13.3% YoY

โดย สินค้าหลักที่ช่วยผลักดันการส่งออกเดือนนี้ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+57.9%) เครื่องโทรศัพท์และอุปกรณ์ (+64.9%) รถยนต์และส่วนประกอบ (+14.6%) รวมถึง เครื่องจักรกล (+11.3%) ส่วนสินค้าบางประเภทที่หดตัว ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำและทรานซิสเตอร์ (-16.3%) และเครื่องรับโทรทัศน์ (-17.0%) ขณะเดียวกัน สินค้าเกษตรโดยรวมยังหดตัว 8.1% YoY โดยเฉพาะผลไม้สดและแช่แข็ง (-55.5%) ข้าว (-31.4%) และ ยางพารา (-15.3%) แต่ยังมีสินค้าบางรายการที่ขยายตัว เช่น ไขมันและน้ำมันพืช (+37.8%) และ ไก่แปรรูป (+9.7%)

ด้าน ตลาดส่งออกหลัก เกือบทุกภูมิภาคยังขยายตัว โดยตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 35.3% YoY ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 24 จากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่สูง ขณะที่จีน ขยายตัว 3.2% ญี่ปุ่น 6.2% และ EU27 11.9% ส่วน ASEAN-5 เติบโตโดดเด่นที่ 20.4% YoY สะท้อนการฟื้นตัวของอุปสงค์ในภูมิภาค ด้านการนำเข้าอยู่ที่ 29,685.5 ล้านดอลลาร์ฯ เพิ่มขึ้น 17.2% ทำให้เดือนกันยายนไทยเกินดุลการค้า 1,275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นักวิเคราะห์ Krungthai COMPASS ระบุว่า การเติบโตที่โดดเด่นนี้เป็นผลจากหลายปัจจัยร่วม ทั้งวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์โลก ความต้องการทองคำในตลาดการเงิน และ แรง “Front-loading” จากผู้ประกอบการที่เร่งส่งออกก่อนนโยบายภาษีใหม่ของประเทศคู่ค้าจะมีผล อย่างไรก็ดี แนวโน้มดังกล่าวอาจชะลอลงในช่วงไตรมาส 4 ปี 2568 และเข้าสู่ภาวะทรงตัวในปี 2569 หลังปัจจัยกระตุ้นชั่วคราวเริ่มหมดแรง

กระนั้น รายงานของ Krungthai COMPASS ยังเตือนถึงความเสี่ยงสำคัญในระยะข้างหน้า ได้แก่ (1) การปรับขึ้นอัตราภาษี Sectoral Tariff ของสหรัฐฯ และประเทศคู่แข่ง ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย และ (2) ความไม่ชัดเจนของ Transshipment Tariff ที่สหรัฐฯ อาจเรียกเก็บกับสินค้าบางประเภทในอนาคต โดยเฉพา ะสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็น หัวใจหลักของการส่งออกไทย

ทั้งนี้ Krungthai COMPASS ชี้ว่า การส่งออกของไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 เติบโตเฉลี่ย 13.9% สอดคล้องกับแนวโน้มการค้าโลกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดย IMF ปรับคาดการณ์ปริมาณการค้าโลกปี 2568 ขึ้นเป็น 3.6% จาก 2.6% ในเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ตาม ในปี 2569 IMF คาดว่าการค้าโลกจะเติบโตเพียง 1.9% ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกไทยที่มีความสัมพันธ์กับการค้าโลกในระดับสูง และต้องเผชิญแรงกดดันมากขึ้น

นักวิเคราะห์ค่ายกรุงไทย มองว่า การส่งออกในเดือนกันยายนส่วนหนึ่งสะท้อนพฤติกรรมการเร่งส่งสินค้าก่อนมาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะใน กลุ่มคอมพิวเตอร์ แผงวงจร และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งยังได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากรบางรายการตามคำสั่งฝ่ายบริหาร หมายเลข 14346 ของสหรัฐฯ จึงเป็นปัจจัยที่อาจหายไปในปีหน้า ขณะที่ การส่งออกทองคำที่เติบโตแรงก็เป็นผลจากความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ และภาวะไม่แน่นอนในตลาดการเงินโลก

เมื่อพิจารณาเทรนด์การส่งออกของประเทศในเอเชีย พบว่า สัญญาณเริ่มชะลอลงเช่นกัน โดย ไต้หวันและเวียดนามมียอดส่งออกเดือนกันยายนหดตัว –32.2% และ -1.5% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสะท้อนว่า แรง Front-loading ทั่วภูมิภาคกำลังหมดไป ดังนั้น จึงคาดว่า…การส่งออกไทยในช่วงปลายปีจะเติบโตช้าลงก่อนเข้าสู่จังหวะชะลอตัวในปี 2569 จากแรงกดดันทางการค้าและปัจจัยเสี่ยงภายนอกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password