กรมพัฒนาธุรกิจฯรับลูกนโยบายรัฐ ผนึกสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนทันสมัย เสริมการแข่งขันตลาดทุนไทย

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าขานรับนโยบายรัฐบาล เดินสายร่วมหารือกับตลาดหลักทรัพย์ฯและธนาคารกสิกรไทย ร่วมพัฒนาและขับเคลื่อนตลาดทุนไทย มุ่งสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนทันสมัย เอื้อต่อการลงทุน พร้อมหนุนการทำงานร่วมกันเชิงรุก รับมือกับความท้าทายทิศทางเศรษฐกิจใหม่

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 ตนได้นำ ผู้บริหารกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเข้าหารือร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และ ธนาคารกสิกรไทย ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับ แนวทางความร่วมมือในการพัฒนาตลาดทุนไทย รับฟังข้อเสนอแนะ ปัญหา และอุปสรรคของภาคธุรกิจและตลาดทุน ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการหยิบยกประเด็นสำคัญเร่งด่วน เรื่องการแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการซื้อหุ้นคืนของบริษัทมหาชนจำกัดให้มีความยืดหยุ่น และสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดทุน
โดย กรมฯจะเร่งรัดแก้ไขกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัท เพื่อแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว ตามข้อเสนอของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้มีการประกาศบังคับใช้โดยเร็ว การหารือในครั้งนี้ไม่เป็นเพียงการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงนโยบายเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่สำคัญในการรับฟังปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอจากภาคตลาดทุนและภาคเอกชนโดยตรง ซึ่งจะช่วยให้กรมฯ สามารถปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ และกลไกการดูแลสนับสนุนภาคเอกชนให้ตอบโจทย์ภาคธุรกิจได้อย่างแท้จริง ตามนโยบายรัฐบาลที่จะเร่งรัดการปฏิรูปกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคและสร้างภาระที่ไม่จำเป็นแก่ภาคธุรกิจ
ทั้งนี้ กรมฯให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย โดยจะปรับปรุงกฎระเบียบ ให้มีความสะดวก โปร่งใส เอื้อต่อผู้ประกอบธุรกิจบนหลักธรรมาภิบาล และแนวโน้มของเศรษฐกิจโลก ซึ่งสอดรับกับคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา และนโยบายของ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ในการสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ทันสมัยและเอื้อต่อการแข่งขัน ผ่านการปรับปรุงกฎระเบียบและขั้นตอนการอนุญาตให้มีความสะดวก โปร่งใส และเป็นมิตรต่อผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการในประเทศ
“กรมฯ จะเดินหน้าสานต่อความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้กฎหมาย กฎระเบียบ และแนวปฏิบัติของกรมฯ ทันต่อสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง เพื่อตอบโจทย์ตรงตามความต้องการของภาคธุรกิจต่อไป” นายพูนพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย.