บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAID ประกาศเดินหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรม WHA Eastern Seaboard Industrial Estate 5 (WHA ESIE 5) เฟสที่ 1 บนพื้นที่กว่า 4,000 ไร่ ภายใต้แนวคิดนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอัจฉริยะ “Smart Eco Industrial Estate” ที่มุ่งเน้นการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต พร้อมสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

ล่าสุดพิธีเปิดหน้าดินของนิคมอุตสาหกรรม WHA ESIE 5 ได้จัดขึ้น เป็นการยืนยันถึงความพร้อมของบริษัทฯ ในการรองรับนักลงทุน และตอกย้ำบทบาทของ WHAID ในฐานะผู้นำอันดับ 1 ด้านการพัฒนานิคมมอุตสาหกรรมของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยนิคมอุตสาหกรรม WHA ESIE 5 เริ่มดำเนินการพัฒนาตั้งแต่ต้นปี 2568 และพร้อมให้นักลงทุนเริ่มเข้าก่อสร้างได้ปลายปี 2568

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)(WHA) กล่าวว่า “WHA ESIE 5 เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจและความสำเร็จที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่ เราเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะช่วยผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งอนาคตระดับโลก โดยปัจจุบัน นิคมอุตสาหกรรม WHA ESIE 5 มีนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่เป็นบริษัทชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรมให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของนิคมอุตสาหกรรม WHA ในการเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการลงทุนยุคใหม่ ด้วยทำเลที่ตั้งยุทธศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐานที่ครบวงจร และแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน คาดว่านิคมอุตสาหกรรม WHA ESIE 5 จะสามารถดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ได้ถึง 200,000 ล้านบาท และเกิดการจ้างงานได้ถึง 30,000 ตำแหน่ง”

นายปจงวิช พงษ์ศิวาภัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)(WHAID) กล่าวเสริมว่า นิคมอุตสาหกรรม WHA ESIE 5 จะเป็น Smart Eco Industrial Estate ที่โดดเด่นด้วยระบบสาธารณูปโภคอย่างครบครัน มีการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย และมาตรการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและความยั่งยืน ทำเลที่ตั้งของ WHA ESIE 5 เป็น Strategic Location ของเขตพัฒนาพิเศษของภาคตะวันออก (EEC) เหมือนกับที่ WHA เคยพัฒนานิคมอุตสาหกรรม อีสเทิร์น ซีบอร์ด ระยอง (ESIE Rayong) ในอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง มาแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทในการเลือกพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับนักลงทุน

สำหรับจุดเด่นของ WHA ESIE 5 เฟสที่ 1 เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่มีพื้นที่รวม 4,000 ไร่ ในพื้นที่อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ของ EEC ติดทางหลวงหมายเลข 3191 และ 3143 ซึ่งเชื่อมต่อกับท่าเรือมาบตาพุด ท่าเรือแหลมฉบัง สนามบินอู่ตะเภา และโครงข่ายคมนาคมสำคัญ ช่วยอำนวยความสะดวกในการนำเข้าวัตถุดิบ การกระจายและส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมดาต้าเซนเตอร์ พร้อมระบบสาธารณูปโภคครบครัน ทั้งไฟฟ้าและพลังงานสะอาด การบริหารจัดการน้ำ ระบบโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (FTTx) ระบบไฟส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบรักษาความปลอดภัยและการจัดการจราจรอัจฉริยะ (Smart Security and Traffic) พร้อมให้บริการโซลูชันครบวงจร (Total Solutions)

และเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้านิคมอุตสาหกรรม WHA ESIE 5 ยังได้วางแผนพัฒนาพื้นที่การเป็นเมืองอุตสาหกรรม เช่น การพัฒนาที่พักอาศัย (Residential Zone) และพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Commercial Zone) ภายในพื้นที่นิคมฯ เพื่อมอบความปลอดภัย สะดวกสบาย และตอบสนองความต้องการให้กับผู้ประกอบการ และผู้ที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม โดยพื้นที่ดังกล่าวได้รับการออกแบบให้เป็นชุมชนเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัย นอกจากนี้ พื้นที่ใกล้เคียงยังมีสถานศึกษาที่สำคัญ 2 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และวิทยาลัยเทคนิคบ้านค่าย ซึ่งจะช่วยผลิตบุคลากรคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน และยกระดับศักยภาพแรงงานของประเทศไทยไปพร้อมกันการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม WHA ESIE 5 ยังส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรอบอย่างมีนัยสำคัญ

โดยการลงทุนในนิคมฯ จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจในท้องถิ่น เช่น ร้านอาหาร ร้านค้าปลีก ธุรกิจบริการ และธุรกิจซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้อง ก่อให้เกิดการสร้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อมในชุมชนโดยรอบ นำมาซึ่งการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ การเพิ่มรายได้ของประชาชน และการยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ ทั้งยังช่วยดึงดูดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม เช่น ศูนย์การค้า สถานพยาบาล และสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะอื่นๆ ที่จะเอื้อประโยชน์ต่อทั้งผู้ประกอบการในนิคมฯ และประชาชนในชุมชนโดยรอบ

นิคมอุตสาหกรรม WHA ESIE 5 มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามที่ได้ก้าวสู่การเป็น Technology and Sustainable Company ที่นำนวัตกรรมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้อย่างต่อเนื่อง เช่น 1. การติดตั้งไฟถนนพลังงานแสงอาทิตย์ตลอดแนวถนน (Solar Street) 2. การใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลน้ำ (Reclamation Water) เพื่อลดการใช้น้ำผ่านการนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) นอกจากนี้ โครงการยังนำระบบความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน (Operational Excellence) มาใช้เพื่อติดตามและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนโดยรอบ ผ่านโครงการสนับสนุนด้านการศึกษาและยกระดับคุณภาพชีวิต ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจ และความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง

นักลงทุนที่แสดงความสนใจในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม WHA ESIE 5 มาจากหลากหลายประเทศ ได้แก่ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา และยุโรป ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนระดับภูมิภาค การพัฒนา WHA ESIE5 ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยในการส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับแรงงานไทย

“ด้วยความเชี่ยวชาญและวิสัยทัศน์ของ WHA Group ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน นิคมอุตสาหกรรม WHA ESIE 5 จึงไม่เพียงแต่เป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพ และการเติบโตของ WHAID ที่ตอบโจทย์ความต้องการนิคมอุตสาหกรรมยุคใหม่ของนักลงทุน แต่ยังเป็นการช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้แข็งแกร่งพร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทั้งนี้ ด้วยการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากนักลงทุน เรายังเตรียมพิจารณาแผนงานขยายพื้นที่โครงการเพิ่มอีกในเร็ว ๆ นี้” นางสาวจรีพร กล่าว.