ราช กรุ๊ป ประกาศผลการดำเนินงานปี ’67 กำไร 6,127 ล. ปันผลหุ้นละ 1.60 บาท

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานปี 2567 รับรู้กำไรส่วนของบริษัทฯ จำนวน 6,127 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.82 บาท และกำไรก่อนต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 15,906 ล้านบาท จ่ายเงินปันผลประจำปี 2567 หุ้นละ 1.60 บาท วันที่ 23 พฤษภาคม 2568

นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนจากกำไรส่วนของบริษัทฯ จำนวน 6,127 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 และ EBITDA จำนวน 15,906 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยมีปัจจัยบวกจากรายได้จากส่วนแบ่งกำไรของกิจการร่วมทุน จำนวน 6,798 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 78 ซึ่งเป็นผลมาจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม หินกอง ชุดที่ 1 และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตันในอินโดนีเซีย สำหรับรายได้รวม ในปี 2567 เป็นจำนวน 42,203 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจผลิตไฟฟ้า ถือเป็นแหล่งรายได้หลัก เป็นจำนวน 40,024 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 95 ของรายได้รวม โดยเป็นรายได้ที่ได้จากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิล จำนวน 34,326 ล้านบาท และรายได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน จำนวน 5,698 ล้านบาท ส่วนรายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภคและอื่น ๆ เป็นเงินจำนวน 2,179 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5 ของรายได้รวม

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติเงินปันผลจ่ายแก่ผู้ถือหุ้นสำหรับผลการดำเนินงานของปี 2567 เป็นจำนวน 3,480 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 56.80 ของกำไรปี 2567 ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก (งวดเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567) แล้ว จำนวน 1,740 ล้านบาท คิดเป็นหุ้นละ 0.80 บาท จึงคงเหลือเงินปันผล อีกจำนวน 1,740 ล้านบาท คิดเป็น 0.80 บาทต่อหุ้น ที่จะดำเนินการจ่ายภายหลังได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม ศกนี้

“บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจผลิตไฟฟ้า จะยังคงเป็นธุรกิจหลัก ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการทบทวนและปรับแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ ให้มีความยืดหยุ่นเพื่อให้สามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนโครงการด้านพลังงานและไฟฟ้า นวัตกรรมที่เป็นโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานทั้งในประเทศไทยและประเทศเป้าหมาย ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เริ่มศึกษาพลังงานรูปแบบใหม่ที่จะนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า ได้แก่ เชื้อเพลิงกรีนไฮโดรเจน เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบโมดูลาร์ ระบบกักเก็บพลังงานรูปแบบแบตเตอรี่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมุ่งที่การบริหารจัดการพอร์ตสินทรัพย์ที่มีอยู่แล้วเพื่อให้สามารถสร้างรายได้เสริมหนุนต่อการเติบโตของบริษัทฯ ให้ดียิ่งขึ้น สำหรับแผนกลยุทธ์ดังกล่าว กำหนดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1 ปีนี้” นายนิทัศน์ กล่าว

ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 214,337 ล้านบาท หนี้สินรวม 107,963 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 106,374 ล้านบาท สำหรับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน อยู่ที่ 1.01 เท่า.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password