ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ รุกตลาดบ้านย่านรังสิตเต็มพิกัด เปิดตัวทาวน์โฮมแห่งใหม่ ‘ไลโอวงแหวนฯ รังสิต – คลอง 4’ มาพร้อมแบบบ้าน French Colonial Style ที่ผสานความหรูหราสไตล์ฝรั่งเศส เพิ่มฟังก์ชันให้ได้ใช้พื้นที่ทุกตารางเมตรคุ้มค่าราคาเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท แถมกู้ได้เต็ม 100% เดือนเดียวปิดการขายเฟสแรกได้รวดเร็ว พร้อมเร่งเปิดเฟส 2 ต่อเนื่องหวังกวาดกำลังซื้อส่งท้ายปี 2565

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ หรือ (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี’ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญด้านการพัฒนาโครงการที่มากด้วยคุณภาพป้อนสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาแม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศผันผวน แต่กำลังซื้อในกลุ่มนี้ยังคงแสดงให้เห็นว่า ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยยังเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวโครงการใหม่ที่เน้นลูกค้า Real Demand เติมเต็มกำลังซื้อดังกล่าว ล่าสุดเปิดตัวโครงการทาวน์โฮม ไลโอ วงแหวนฯ รังสิต – คลอง 4 บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ รวม 475 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

“ทำเลย่านวงแหวนฯ รังสิต – คลอง 4 ถือเป็นเมืองแห่งใหม่ที่มีความครบครันไปด้วยสาธารณูปโภคต่างๆโดยเฉพาะหัวใจสำคัญของการซื้อที่อยู่อาศัยนั่นคือ ศักยภาพทางด้านการคมนาคม ซึ่งทำเลนี้ถือเป็นทำเลอันดับต้นๆ ที่ผู้ซื้อบ้านนิยมมาเฟ้นหาและจับจอง เนื่องจากเข้า-ออกเมืองได้รวดเร็วสะดวกสบาย ทำให้เดินทางเชื่อมต่อระหว่างบ้านและที่ทำงานได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (วงแหวนกาญจนาภิเษก),ทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) หรือแม้กระทั่งยังเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟฟ้าสายสีเขียว(คูคต) ซึ่งตอบโจทย์ชีวิตของคนเมืองที่ยังต้องการพื้นที่ในการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้เรายังมองถึงเรื่องความสะดวกในการเดินทาง สามารถรับ-ส่งลูกหลานไปสถานศึกษาที่ไม่ต้องใช้เวลานาน เพื่อประหยัดเวลาและลดการใช้พลังงานเกินความจำเป็นมาให้อีกด้วย ประเด็นสำคัญเหล่านี้แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ก็ให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะผู้อยู่อาศัยต้องพบกับปัจจัยเหล่านี้ในทุกวัน หากเราช่วยแก้ปัญหาเบื้องต้นเช่นนี้ได้ จะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และมีความสุขกับการอยู่อาศัยที่ลงตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งกว่า

ทั้งนี้ โครงการไลโอ วงแหวนฯ รังสิต – คลอง 4 เป็นทาวน์โฮมคุณภาพ ตั้งอยู่บนถนนสายหลักรังสิตคลอง 4 โดดเด่นด้วย French Colonial Style มาพร้อมดีไซน์ที่ลงตัว มีฟังก์ชันการใช้งานที่ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ สอดรับกับชีวิตในยุค New Normal โดยสามารถปรับเปลี่ยนห้องอเนกประสงค์ให้เป็นห้อง Work From Home / Study Online หรือแม้กระทั่งปรับมาเป็นห้องผู้สูงอายุรับสังคมสูงวัยในอนาคตได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังจัดเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สวนสวยสไตล์โพรวองซ์ (Provence) ช่วยให้ความร่มรื่นผ่อนคลายในวันพักผ่อน

-คัดสรรวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยลดมลพิษทางอากาศ ครบครันไปกับคลับเฮาส์หรู พร้อมฟิตเนส และสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ

–มาตรฐานเข้า-ออก โครงการสะดวกด้วย Key Card – Access ,อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โครงการตั้งอยู่ในทำเลคุณภาพ เป็นศูนย์กลางบนถนนรังสิตประกอบไปด้วยสถานศึกษาอย่าง โรงเรียนโชคชัย รังสิต,โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต, มหาวิทยาลัย นอร์ทกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ฯลฯ หรือแม้กระทั่งแหล่ง Lifestyle Mall ขนาดใหญ่ อาทิ ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ,ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจรังสิต อีกด้วย

โครงการไลโอ วงแหวนฯ รังสิต – คลอง 4 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2 ล้านบาท มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ประกอบด้วย

• แบบบ้าน LYON พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก และส่วนเตรียมอาหาร พร้อมที่จอดรถ 2 คัน

• และแบบบ้าน LILLE พื้นที่ใช้สอย 105 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก และส่วนเตรียมอาหาร พร้อมที่จอดรถ 1 คัน

ช่วงเปิดโครงการยังจัดโปรโมชันพิเศษเอาใจคนอยากมีบ้าน แถมฟรีเฟอร์นิเจอร์+แอร์ทั้งหลัง และกู้ได้เต็ม 100%* ผ่อนสบายเริ่มต้นเพียง 7,000 บาทต่อเดือน

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล เพิ่มเติมว่า โครงการไลโอ วงแหวนฯ รังสิต – คลอง 4 โดดเด่นมากด้านการเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคม ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะเดินทางสะดวก ติดถนนใหญ่ ใกล้วงแหวนฯ

“เราออกแบบทุกฟังก์ชันให้ ไลโอ วงแหวนฯ รังสิต – คลอง 4 เติมเต็มทุกความต้องการของสมาชิกในบ้านได้ลงตัว โดยคำนึงถึงการใช้พื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์มากที่สุด คิดค้นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และใส่ใจในทุกรายละเอียดให้ออกมามีคุณภาพตรงใจผู้บริโภค ทำให้หลังเปิด Soft Opening เราปิดการขายเฟสแรกได้รวดเร็ว และเปิดขายเฟส 2 เร็วกว่ากำหนดเดิมที่วางไว้ ถือเป็นอีกความสำเร็จในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2565ที่บริษัทฯ พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นผู้นำในการพัฒนาโครงการคุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริงของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน”