“มนพร เจริญศรี” ร่วมคณะนายกรัฐมนตรี -กระทรวงคมนาคม ลุยติดตามความก้าวหน้าพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และท่าเรือแหลมฉบัง เผย! กระทรวงคมนาคมเตรียมแจ้งให้เอกชนเริ่มสร้างสนามบินอู่ตะเภา ช่วง ก.ค.นี้ ส่วนท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 หวังผลักดันก้าวขึ้นเป็นท่าเรือระดับโลก

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี ระยอง ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่เชิงพานิชย์รองรับการลงทุนในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ณ สนามบินอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง และ การดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3

รมช.คมนาคม กล่าวว่า โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา กระทรวงคมนาคมจะแจ้งให้เอกชนเริ่มดำเนินการก่อสร้างงานสำคัญเร่งด่วน เช่น อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 อาคารเทียบเครื่องบินรอง และศูนย์ธุรกิจการค้า ภายในเดือนกรกฎาคม 2567 และเร่งรัดโครงการเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงกับ 3 สนามบินที่ยังมีความล่าช้าอยู่ คาดว่า ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีความชัดเจนและคาดว่าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาจะสามารถเปิดให้บริการในปี 2572 พร้อมก้าวขึ้นสู่ศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค เป็นสนามบินนานาชาติที่ได้มาตรฐานโลก รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน เชื่อมโยงการท่องเที่ยว สู่ภาคธุรกิจ เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและขนส่งทางอากาศแห่งภูมิภาค สร้างความมั่นใจและเป็นปัจจัยสำคัญดึงดูดให้นักลงทุนเข้าสู่พื้นที่ EEC

ส่วนความคืบหน้า โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เป็นโครงการสำคัญในการพัฒนาพื้นที่โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกที่รัฐบาลต้องการเร่งพัฒนาให้เสร็จโดยเร็วเพื่อเชื่อมต่อและขนส่งสินค้าไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ( กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ) และประเทศจีนตอนใต้ โดยหวังจะยกระดับเป็น “จุดยุทธศาสตร์สำคัญ” ในการขนส่งและกระจายสินค้าที่สำคัญของภูมิภาค โดยมุ่งพัฒนาและผลักดัน ทลฉ. ให้เป็นท่าเรือชั้นนำของโลกและเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งทางน้ำ เพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือเพื่อรองรับความต้องการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นในอนาคต.