‘คลัง’ ปัดแจก ‘เงินดิจิทัล’ กลุ่มเปราะบางก่อน ยันไทม์ไลน์พร้อมกัน 50 ล้านคน Q4
กระทรวงคลัง ปฏิเสธกระแสข่าวแจกเงินดิจิทัลกลุ่มเปราะบางได้ก่อน แจงเริ่มตรวจสอบผู้รับสิทธิและยืนยันตัวตนทีละกลุ่ม ยันไทม์ไลน์เดิมให้พร้อมกัน 50 ล้านคน ช่วงไตรมาส 4
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีมีกระแสที่รัฐบาลจะพิจารณาแจกเงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตให้กับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.98 ล้านคนก่อน ว่า ไม่มีเรื่องแบบนั้น เป็นเพียงขั้นตอนการทำงานในการลงทะเบียนและพิสูจน์ตัวตน (KYC) เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ตามที่กำหนดไว้แล้ว โดยเริ่มมีการทยอยตรวจสอบเป็นกลุ่มๆ เพื่อให้เสร็จทันภายในดือน ก.ย.67 ทั้งหมดยังคงเป็นคุณสมบัติเดิม และตามไทม์ไลน์เดิม
ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยยืนยันว่าจะเป็นการจ่ายเงินพร้อมกันครั้งเดียว 50 ล้านคน คนละ 10,000 บาท ตามไทม์ไลน์เดิมคือลงทะเบียนร้านค้าและประชาชนในตรมาส 3 และเงินถึงมือประชาชนในไตรมาส 4 ปี 2567 “เราไม่เคยพิจารณาว่าจะให้กลุ่มไหนก่อนตั้งแต่แรกแล้ว ทุกคนควรได้พร้อมกัน ในระยะเวลาเดียวกัน ในจำนวนเงินที่เท่ากัน เพื่อให้การกระตุ้นเศรษฐกิจมีเม็ดเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจพร้อมกัน”
ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ไม่ได้มีการเสนอว่าจะ ให้กลุ่มเปราะบาง และผู้ถือบัตรสวัสดิการ ได้มีสิทธิรับเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาทก่อนกลุ่มอื่น ซึ่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้
“โดยการจัดทำงบประมาณเป็นไปตามกระบวนการปกติ คือ ต้องผ่านการปรับแผนวินัยการเงินการคลังในระยะปานกลาง และผ่านความเห็นจาก 4 หน่วยงานเศรษฐกิจ และนำกลับเข้ามารายงาน ครม.อีกรอบ ซึ่งไม่มีข้อมูลใหม่และเกณฑ์กลุ่มเปราะบางเลย จากนั้นก็มีการปรับแผนบริหารหนี้สาธารณะตามมาเป็นไปตามกระบวนการปกติ”
สำหรับงบประมาณที่มาทำในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังมาจาก 3 ส่วนคือ
1.จากงบประมาณปี 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท โดยในส่วนนี้ได้ออกงบประมาณเพิ่มเติมแล้วจำนวน 122,000 ล้านบาท
2.การขยายงบขาดดุลงบประมาณ ปี 2568 จำนวน 152,300 ล้านบาท
3.การใช้เงินตาม มาตรา 28 พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังปี 2561 ในส่วนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.).