“กรมบัญชีกลาง” อัปเดตสวัสดิการแห่งรัฐ เดือน เม.ย. 66 จ่ายอะไรบ้าง

กรมบัญชีกลาง แจงความคืบหน้า โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประชาชนจะได้รับสิทธิอย่างใดบ้าน พร้อมเผยตัวเลขที่ได้ใช้จ่ายให้กับร้านค้า หน่วยงานต่างๆ และ การโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ แล้ว กว่า 3,900ล้านบาท

นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้ที่ได้รับสิทธิจะใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 โดยจะได้รับวงเงิน ดังนี้

ทุกวันที่ 1 ของเดือน (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

  • วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อเดือน
  • วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อ 3 เดือน
  • วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL)

วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 (มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า/ค่าน้ำประปา)

  • ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
  • ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (กรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท)
    ผู้มีสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่ลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิตามมาตรการฯลงทะเบียนกับผู้ให้บริการไฟฟ้าได้ 1 แห่ง และผู้ให้บริการน้ำประปาได้ 1 แห่ง (การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค) ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งสามารถใช้สิทธิได้ (ใบแจ้งหนี้) ในเดือนถัดจากเดือนที่ลงทะเบียนกับหน่วยงานดังกล่าว โดยผู้มีสิทธิที่มีค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา ตามเงื่อนไขของการให้สิทธิสวัสดิการ ไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา โดยกระทรวงการคลังจะดำเนินการจ่ายเงินคืนให้แก่หน่วยงานที่ให้บริการโดยตรง

ทุกวันที่ 20 ของเดือน (เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน) ผู้มีสิทธิเป็นผู้พิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน จะต้องทำการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรก่อน จึงจะได้รับสิทธิ โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
** สำหรับผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐรายเดิมที่ได้รับสิทธิในการชดเชยค่าไฟฟ้าและ/หรือค่าน้ำประปา กรมบัญชีกลางจะทำการโอนเงิน e-Money เข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ครั้งสุดท้ายในวันที่ 18 เมษายน 2566

สำหรับเดือนมีนาคม 2566 กรมบัญชีกลางขอรายงานผลการจ่ายเงินให้แก่หน่วยงาน/ร้านค้าที่รับชำระเงินด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ตั้งแต่วันที่ 1- 31 มีนาคม 2566 ดังนี้

  1. สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
    1.1 วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 3,460.19 ล้านบาท
    1.2 วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 17.81 ล้านบาท
    1.3 วงเงินค่าโดยสารรถเมล์และรถไฟฟ้า 23.81 ล้านบาท
    1.4 วงเงินค่าโดยสารรถบริษัทขนส่ง จำกัด 8.08 ล้านบาท
    1.5 วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 18.92 ล้านบาท
    รวมจำนวนเงิน 3,528.82 ล้านบาท
  2. สวัสดิการที่ให้ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (e-Money)
    2.1 มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 229.32 ล้านบาท
    2.2 มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 17.29 ล้านบาท
    2.3 มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 216.02 ล้านบาท
    รวมจำนวนเงิน 462.63 ล้านบาท
    รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,991.44 ล้านบาท

ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password