สมอ.แก้ มอก.เหล็กแผ่นเคลือบ

สมอ. แก้มาตรฐานเหล็กแผ่นเคลือบ มอก.50 และ มอก.2228 ตามมาตรฐานสากล หลังบอร์ดเห็นชอบ พร้อมเร่งประกาศเป็นสินค้าควบคุมภายในปีนี้

นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) เปิดเผยว่า กมอ. ได้มีมติเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เห็นชอบให้ สมอ. แก้ไขปรับปรุงมาตรฐานเหล็ก 2 รายการ ได้แก่ เหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสี โดยกรรมวิธีจุ่มร้อน มอก.50-25xx และเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบอะลูมิเนียม 55% ผสมสังกะสี โดยกรรมวิธีจุ่มร้อน มอก.2228-25xx เนื่องจากเหล็กดังกล่าวเป็นวัตถุดิบสำคัญที่นำไปใช้ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอื่น ๆ เช่น เหล็กโครงสร้างรูปพรรณขึ้นรูปเย็นเคลือบโลหะ ท่อเหล็กกล้าเคลือบโลหะ ชิ้นส่วนรถยนต์ และชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น พร้อมทั้งเร่งรัดให้ดำเนินการเป็นสินค้าควบคุมในคราวเดียวกัน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ด้าน นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า มาตรฐานเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสี โดยกรรมวิธีจุ่มร้อน มอก.50-25xx และเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบอะลูมิเนียม55% ผสมสังกะสี โดยกรรมวิธีจุ่มร้อน มอก.2228-25xx หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “เหล็กแผ่นเคลือบ” ได้มีการทบทวนปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานมาอย่างต่อเนื่อง โดยเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสี ทำโดยนำเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นไปเคลือบด้วยสังกะสี เพื่อป้องกันสนิม และนำไปผ่านกรรมวิธีทางเคมีการเคลือบน้ำมัน เพื่อให้มีความเหมาะสมในการนำไปใช้งานมากขึ้น มีทั้งที่เป็นแผ่น เป็นม้วน และเป็นแผ่นลูกฟูก

ซึ่งการแก้ไขมาตรฐานในครั้งนี้ ได้แก้ไขชื่อมาตรฐานใหม่ให้กระชับ และสอดคล้องกับการกำหนดชื่อมาตรฐานผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ที่ได้กำหนดเป็นมาตรฐานไว้แล้ว แก้ไขขอบข่ายให้ครอบคลุมกับการใช้งานในปัจจุบันจากมาตรฐานฉบับเดิมครอบคลุมความหนา 1.8 มม. เป็นไม่เกิน 3.2 มม. และแก้ไขบทนิยามโดยเจาะจงชนิดของผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของขนาด ส่วนประกอบทางเคมี และสมบัติทางกล เป็นต้น

สำหรับเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบอะลูมิเนียม 55% ผสมสังกะสี ได้แก้ไขชื่อมาตรฐานใหม่ให้ครอบคลุมทั้งกรณีรีดร้อนและรีดเย็น แก้ไขขอบข่ายและบทนิยามให้ชัดเจนขึ้น แบ่งชั้นคุณภาพจาก 9 ชั้นคุณภาพเป็น 10 ชั้นคุณภาพ รวมทั้งแก้ไขส่วนประกอบทางเคมี และกำหนดเกณฑ์ปริมาณอะลูมิเนียมในมวลเคลือบ เป็นต้น ซึ่งคาดว่า มาตรฐานดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ โดย สมอ. จะดำเนินการประกาศเป็นสินค้าควบคุมต่อไป จึงขอให้ผู้ประกอบการทั้งทำและนำเข้าปฏิบัติตามมาตรฐานดังกล่าว หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password