ศูนย์วิจัย”แบงก์รวงข้าว”หนุนส่งออกสินค้าไทยไปซาอุฯ คาด3ปีมูลค่าแตะ 2,600 ล้านดอลลาร์ฯ


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์ การฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ ครั้งแรกรอบ 30 ปี หลังนายกฯเดินทางเยือนซาอุฯ จะสร้างโอกาสใหม่สินค้าธุรกิจ ฉุดตัวเลขส่งออกเพิ่ม หนุนไทยสปีดหนีเวียดนาม อินโดฯ ในตลาดเดียวกัน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยผลวิเคราะห์ระบุว่า การฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีช่วยขับเคลื่อนการส่งออกของไทยในระยะ 3 ปีข้างหน้าเร่งตัวอีก 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี สำหรับในปีนี้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียที่มาจากราคาน้ำมันและกำลังซื้อจะเป็นแรงส่งสำคัญให้การส่งออกของไทยไปซาอุดีอาระเบียในปี 2565 นี้มีโอกาสฟื้นกลับไปสู่ระดับก่อนโควิด-19 แตะมูลค่าใกล้เคียง 1,900 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัวร้อยละ 15

โดยสินค้าที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญประกอบด้วยรถยนต์นั่ง รถกระบะ ชิ้นส่วนยานยนต์ อาหารฮาลาล (อาหารทะเลแปรรูป ข้าว อาหารแปรรูป) แผ่นไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง ท่อยาง เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรทัศน์ ตู้เย็น และ เครื่องปรับอากาศ

ปัจจุบันซาอุดีอาระเบียนำเข้าสินค้าไทยมากที่สุดในอาเซียน โดยสินค้าไทยสามารถตอบโจทย์ได้หลากหลาย แม้จะยังมีไม่มากนัก แต่ไทยคงต้องเผชิญการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดซาอุดีอาระเบีย เช่นเดียวกับการส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ โดยอินโดนีเซียเป็นคู่แข่งที่ไทยต้องเฝ้าระวังอย่างมากมีสินค้าทับซ้อนกับไทยทั้งรถยนต์นั่ง แผ่นไม้ อาหารทะเลแปรรูป ตู้เย็น ขณะที่ต้องเฝ้าระวังสินค้าข้าว เครื่องซักผ้าจากเวียดนาม

โดยในบรรดาสินค้าที่ซาอุดีอาระเบียต้องการ หากไม่รวมสินค้าอุตสาหกรรม นับว่าสินค้าอาหาร มีนัยสำคัญต่อไทย ข้าว เป็นอาหารที่ซาอุดีอาระเบียต้องการนำเข้ามากที่สุดเป็นอันดับ 1 ส่วนใหญ่นำเข้าข้าวบาสมาติของอินเดียเป็นหลักถึงร้อยละ 78 ทำให้ข้าวไทยตอบโจทย์เพียงเล็กน้อย หรือ ร้อยละ 1.7 รวมถึงเวียดนาม ที่ส่งออก ร้อยละ 1.5

อาหารทะเลกระป๋อง ผลไม้กระป๋อง ผลไม้แห้งเป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการทำตลาดได้ค่อนข้างสูงโดยครองตลาดได้ร้อยละ 54 ร้อยละ 36 และร้อยละ 25 ตามลำดับ จึงมีโอกาสที่จะพัฒนาต่อยอดขยาดตลาดได้อีกในอนาคต สำหรับสินค้าอื่นๆ ที่ซาอุดีอาระเบียต้องการบริโภคและเป็นโอกาสในอนาคตหากไทยทำได้ ได้แก่ ข้าว เนื้อ สัตว์ปีก นม อาหารแปรรูป ชีส ขนมปัง ข้าวโพด บาร์เลย์ น้ำตาล ผลไม้ กาแฟ

อีกทั้งในระยะยาวสัญญาณบวกจากการฟื้นความสัมพันธ์กับไทยน่าจะกระตุ้นให้เกิดการลงทุน การทำธุรกิจและการท่องเที่ยวระหว่างกันโน้มนำให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักทำตลาดได้ตามมา มีความเป็นไปได้ว่าจะทำการส่งออกไทยไปซาอุดีอาระเบียเร่งตัวอีก 1,000 ล้านดอลลาร์ฯ ในเวลา 3 ปี แตะมูลค่า 2,600 ล้านดอลลาร์ฯ ขยับขึ้นเป็นคู่ค้าของไทยที่มีขนาดเทียบเคียงกับตลาดอังกฤษ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password