‘ศุภจี’ ร่วมเวที ’15 ผู้นำ RCEP’ เร่งรับเพิ่มสมาชิกใหม่ หนุน ‘การค้า – ขยายตลาด’ รับมือโลกที่ไม่แน่นอน

ผู้แทนรัฐบาลไทย ชี้! สมาชิก RCEP ที่มากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสให้เศรษฐกิจของอาเซียนได้ขยายตัวมากขึ้น หลังเข้าประชุมร่วม 15 ชาติสมาชิก ครั้งแรกในรอบ 5 ปี ย้ำจุดยืน! มุ่งรักษาการค้าพหุภาคี เร่งขยายสมาชิกใหม่ เสริมความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานของภูมิภาค หวังรับมือกับความไม่แน่นอนการค้าโลก

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ได้รับมอบหมายจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็น “ผู้แทน” เข้าร่วมการประชุมสุดยอดความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ครั้งที่ 5 ร่วมกับ “ผู้นำ” ประเทศสมาชิกความตกลง RCEP ทั้ง 15 ประเทศ ประกอบด้วย อาเซียน 10 ประเทศ ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการ ประชุมผู้นำ RCEP ครั้งแรกในรอบ 5 ปีหลังจากความตกลง เริ่มมีผลบังคับใช้
นางศุภจี กล่าวว่า ไทยและประเทศสมาชิกต่างเห็นตรงกันว่า การค้าโลกในปัจจุบันมีความเสี่ยงจากปัจจัยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมโยงในห่วงโซ่อุปทานของภูมิภาค ไทยจึงได้ร่วมยืนยันจุดยืนในฐานะสมาชิกของ RCEP จะรักษาระบบการค้าพหุภาคีที่เปิดกว้าง โปร่งใส และมีกฎเกณฑ์ที่แน่นอน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคเอกชนในการดำเนินธุรกิจการค้าและการลงทุนในประเทศสมาชิก RCEP

รมว.พาณิชย์ กล่าวเสริมว่า ความตกลง RCEP จะมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงของการพึ่งพาตลาดคู่ค้าหลัก เพราะสามารถเพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่ได้อีกนอกเหนือจาก 15ประเทศสมาชิกปัจจุบัน ตรงกับเป้าหมายของรัฐบาลในการขยายตลาดการค้า และใช้ FTA บุกตลาดใหม่ในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ซึ่งการเพิ่มของจำนวนสมาชิก RCEP จะเพิ่มโอกาสให้เศรษฐกิจของภูมิภาคขยายตัวมากขึ้นจากการขยายเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานไปยังประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพ และจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของผู้ส่งออกไทยที่นอกเหนือจากอาเซียนและ คู่เจรจาของอาเซียน
นอกจากนี้ ตัวแทนฝ่ายไทย ยังได้เสนอแนะต่อที่ประชุมฯ ถึงแนวทางผลักดันบทบาทความเป็น “ผู้นำ” ทางการค้าของ RCEP โดยเตรียมความพร้อมเรื่อง การทบทวนความตกลง RCEP ที่กำหนดไว้ในปี2570 ให้ครอบคลุมประเด็นที่สอดคล้องกับทิศทางของโลก และความต้องการของภาคธุรกิจ โดยควรมุ่ง ยกระดับให้ความตกลง RCEP มีมาตรฐานที่สูง มีความยืดหยุ่นรองรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจน สนับสนุนการค้าดิจิทัลและการค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญ จะต้องสนับสนุน SMEs เพื่อให้สามารถเข้าร่วมในห่วงโซ่อุปทานและมีศักยภาพในการรับมือกับความท้าทายทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์รับจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม RCEP ในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ในช่วงวันที่ 16-17 พฤศจิกายน 2568 ณ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเร่งดำเนินการตามมติของผู้นำในครั้งนี้.






