ครูเงาะ ติด ‘กระดุมเม็ดแรกของการดับทุกข์’
ครูเงาะรสสุคนธ์ กองเกตุ นักพัฒนาศักยภาพมนุษย์และครูสอนการแสดง ได้มาแบ่งปันประสบการณ์และสนทนาธรรมในหัวข้อ “ธรรมะทำ ทำไมธรรมมะ” บนเวทีเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่น จัดโดย พุทธปัญญาชมรม บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่
ชีวิตทุกคนเกิดมามีความแตกต่างกัน แต่ประสบการณ์ สิ่งที่ประสบพบเจอได้นำพาให้ชีวิตมุ่งมั่นไปสู่จุดหมายและความสำเร็จ หากมีความตั้งใจอันมุ่งมั่น ตัวอย่างของบุคคลที่มีใจแน่วแน่ในการศึกษาธรรมะและเรียนรู้แนวทางการพ้นจากความทุกข์ ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ นักพัฒนาศักยภาพมนุษย์และครูสอนการแสดง ได้มาแบ่งปันประสบการณ์และสนทนาธรรมในหัวข้อ “ธรรมะทำ ทำไมธรรมมะ” บนเวที เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่น จัดโดย พุทธปัญญาชมรม บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่
ครูเงาะเริ่มเล่าเรื่องในวัยเด็กว่า ที่บ้านของครูเงาะนั้นคุณพ่อชอบยิงนกตกปลา ส่วนคุณแม่จะใส่บาตรสวดมนต์ทุกวัน พี่สาวของครูเงาะประสบอุบัติเหตุจากไปตั้งแต่ครูเงาะยังไม่เกิด และคุณพ่อก็จากไปตอนครูเงาะอายุได้ 6 ขวบ ด้วยโรคตับแข็ง ครูเงาะเล่าว่าที่คุณแม่ผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้เพราะคุณตาคุณยายเป็นสายธรรมะเหมือนกัน บอกกับคุณแม่ว่า บุญเขามาแค่นี้ ที่เป็นความเชื่อแบบคนไทยพุทธ บุญเขาหมดแค่นี้ ถึงเวลาที่ต้องไป ไม่เอาผิดคนที่ขับรถมาชนลูก แม้แต่บาทเดียวแม่ก็ไม่ได้เอา เพราะแม่มีความรู้สึกว่า ถ้าถึงเวลาต้องตาย เขาต้องตาย แม่เป็นคนเชื่อในเหตุของกรรมมากๆ จึงก้าวข้ามเหตุการณ์นั้นมาได้
ครูเงาะยังเล่าอีกว่า ที่บ้านจะทำบุญแบบประเพณีนิยม ก็คือสวดมนต์ที่เราไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร ใส่บาตรแล้วก็หวังว่าทุกอย่างชีวิตเราจะดีจากการใส่บาตร แล้วก็ได้ทำบุญกับพระอริยะ เพราะที่แถวบ้านจะมีสำนักสงฆ์ที่หลวงปู่ชอบ หลวงปู่หลุยส์ท่านจะมาอยู่ตรงนั้นประจำ พี่ชายก็จะพาไปกราบหลวงปู่ชอบ หลวงปู่หลุยส์ตั้งแต่เด็ก
เดินสายหาพระทางอีสานตรงไหนว่าดีก็ต้องไปกราบท่านหวังจะเอาบุญมาไว้กับตัวของเรา แต่เชื่อไหมว่าตลอดระยะเวลาที่เราเดินสายแบบนั้น เงาะเกือบเอาตัวไม่รอดกับปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต เป็นคนอารมณ์เย็น แต่ไม่ยอมคน ไม่ยอมเอาซะจริงๆ เลย แม้ในตอนเด็กเวลาเถียงแม่ก็เถียงคำไม่ตกฟาก โตมาพอมีแฟนก็ทะเลาะกับแฟนไม่ลดละจนเกือบตายบนถนน
แต่วันนั้นพอขับรถออกมาสติมันถึงมาเพราะความทุกข์มันดับ สติมันค่อยผุด ปัญญามันผุดขึ้นมาความละอายก็เกิดเห็นหน้าแม่ลอยขึ้นมา ทำไมวันนี้เด็กคนนี้ถึงโง่ขนาดที่ให้อารมณ์ควบคุมผลลัพธ์ในชีวิต สิ่งที่ทำถัดมา คือครูเงาะออกเดินทางตามหาหนทาง เลยไปเรียนนั่งสมาธิ นั่งนานบางทีนั่ง 2 ชั่วโมงก็นั่ง นั่งก้าวข้ามเวทนาได้ก็นึกว่าเป็นฮีโร่ นั่งเห็นแสงไฟวิบวับก็นึกว่าใช่ ไม่ได้รู้เรื่องเลย ไม่ได้แตะแก่นพุทธศาสนาเลย ชอบความสงบ ใครมาทำให้ไม่สงบก็ด่าอีก
พอหาเรียนเมืองไทยแล้วต้องไปเรียนต่างประเทศ จ่ายเงินเรียนถึง 300,000 บาท ไปเรียนที่เยอรมัน เค้าบอกว่าคนนี้เก่งมาก สอนเรื่องขันธ์ แล้วสอนแค่ 2 ขันธ์สอนแบบผิวเผินไม่ได้ลงลึก ซึ่งเราเคยอ่านเรื่องนี้จากหลวงปู่ชามาก่อน เพราะสมัยเป็นเด็กมีความสนใจเรื่องนี้ เป็นคนชอบเรียนพุทธศาสนาตั้งแต่เด็ก เป็นตัวแทนห้องเรียน ผู้ประกาศพุทธศาสนา รู้ทุกอย่างแต่ไม่เข้าใจซักอย่าง ท่องได้หมด อิทธิบาท 4 สังฆวัตถุ 4 ได้หมด แต่เอาไปใช้ไม่เป็น เงาะอ่านหนังสือหลวงปู่ชาท่านสอนเรื่องสัญญาสังขารไว้ท่านบอกว่า ถ้าเกิดวันนี้เราเอาโถชักโครกที่เพิ่งออกจากโรงงานมาใหม่ แล้วเอาอาหารตักไปใส่ตรงนั้น ให้พวกเรากิน พวกเราก็จะไม่อยากกิน เพราะสัญญาของเรามันฝังไว้ เราโดนสัญญาหลอก สัญญาคือความทรงจำใช่ไหม ทีนี้ฝรั่งฝรั่งเค้าสอนวันสุดท้ายก่อนจะกลับบังคับให้ทุกคนแชร์ ก็เลยยกเรื่องที่หลวงปู่ชาสอนคนในห้องประมาณ 20% เดินมาหาครูเงาะแล้วบอกว่าฉันนั่งเรียนอยู่ไม่รู้เรื่องเลยเพิ่ง เพิ่งเข้าใจตอนเธอแชร์ อาจารย์ของเธอเป็นใคร ตั้งเจตนาเลยวันนั้นว่าขอให้ข้าพเจ้าได้พบครูบาอาจารย์ที่ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจแก่นธรรมของพระศาสนาด้วยเถิด
เชื่อไหมว่า 2600 กว่าปีมาแล้ว ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนใดเลยสามารถคัดค้านคำสอนของพระพุทธได้แม้แต่ข้อเดียว มีแต่นักวิทยาศาสตร์ตามทุกอย่าง เรื่องที่ท่านบอกไว้หมด ลำไส้ขนาดไหน สั้นขนาดไหนนี่อยู่ในพระไตรปิฎกในร่างในไส้ของมนุษย์มีพยาธิอยู่จำนวนเท่าไหร่ บอกระยะเด็กในครรภ์มารดาบรรยายไว้หมดแล้ว ฉะนั้นแหล่งความรู้ที่เพียงพอแล้วต่อการดับทุกข์มันอยู่ในพระไตรปิฎก
วันหนึ่งครูเงาะได้ไปเจอพระอาจารย์ต้น ธรรมนาวา ท่านก็เป็นพระปฏิบัติชอบ ท่านเป็นพระที่อยู่ในป่าแล้วออกมาเพื่อเผยแผ่ธรรมของท่าน ท่านบวชตั้งแต่ปี 2543 แล้วออกมาเริ่มเผยแผ่ตั้งแต่ปี2547แต่ท่านทำเงียบๆ อยู่ในป่าที่จังหวัดเชียงราย ในอดีตครูเงาะจะเป็นคนที่มีอัตตามานะสูง เพราะว่าด้วยความที่เป็นคนไม่ยอมคน นี่คือสันดานของเราที่ติดมาแล้ว แต่ละคนมีสันดานไม่เหมือนกันบางคนจะเป็นขี้กลัว บางคนจะเป็นขี้โกรธ บางคนจะเป็นถือดีบางคนจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ของครูเงาะจะเป็นเรื่องของความถือดี แต่แปลกมากทันทีที่อ่านธรรมะของพระอาจารย์ต้น ก็เกิดภาวะที่ใจเราไม่ต้านเลย รู้สึกนอบน้อม จึงลองเข้าไปฟังธรรมของท่านสิ่งที่ท่านสอนมันดับทุกข์ในชีวิตของเราได้จริงๆ
พระพุทธเจ้าสอนอะไร พระพุทธเจ้าไม่ใช่เป็นผู้คิดค้นพระพุทธศาสนาท่านเป็นคนค้นพบ เพราะสิ่งที่ท่านสอนนั้นมันมีอยู่แล้วในโลก แม้ท่านจะสอนหรือไม่สอนสิ่งนี้มีอยู่ในโลก แต่ท่านมาสอนให้เราเห็นทาง พระไตรปิฎกเป็นธรรมะจากพระพุทธเจ้า ซึ่งเรามีเอาไว้ใช้ แต่ปัญหาของคนไทยคือมีเอาไว้สวด ซึ่งพระพุทธเจ้าเคยห้าม ศาสนาพุทธแปลว่าการประกาศ ย้ำสอนจิตเพื่อเอาไปใช้จริงในชีวิต ฉะนั้นพระพุทธศาสนาไม่เน้นการสวดมนต์ พระพุทธศาสนาให้กล่าวพร่ำสาธยาย แต่สาธยายในอดีตสาธยายกันเป็นภาษามคธ เป็นภาษาธรรมชาติที่พูดภาษามคธหรือบาลีตัวเขียนเป็นอันเดียวกัน แต่การท่องไม่ผิดถ้าเราเข้าใจความหมาย
เมื่อเราปฏิบัติธรรม สิ่งแรกที่เรานึกถึงคือ การนั่งสมาธิ ระดับของสมาธิแปลว่าจิตตั้งมั่น พระพุทธเจ้าตรัสถึง คุณของสมาธิไว้ 4 ประการ หนึ่งสมาธิที่พวกเรานั่งหลับตากันจะช่วยทำให้สงบสบายใจ แต่ไม่ได้ช่วยให้พ้นทุกข์ ท่านสรรเสริญว่า ถ้าจิตมันฟุ้งมากก็นั่งสงบใจ นั่งสงบใจได้ความสงบ
สมาธิแบบที่สองคือ เพื่อฤทธิ์ ซึ่งก็มีจริง เราก็จะเห็นข่าวปลุกเสก หรือบางคนนั่งสมาธิเจอนิมิตก็ออกมาใบ้หวยต่างๆ เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันเราไปติดอยู่ที่ฤทธิ์เป็นส่วนใหญ่
สมาธิระดับที่สามคือเพื่อสร้างสติ สมาธิตัวที่สี่ต่างหากที่พระพุทธเจ้าบอกว่าใช้เพื่อการดับทุกข์นั่นคือสมาธิในการตั้งมั่นเห็นขันธ์ 5 เกิดดับ
เราเห็นขันธ์ห้าเกิดดับเฉยเฉยเราเรียกว่าแค่สติ แต่ถ้าเมื่อไหร่จะพ้นทุกข์ได้พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจนเลย อริยสัจสี่เป็นเส้นทางเดียวที่จะทำให้ออกจากเวียนว่ายตายเกิดได้ต้องมีอริยสัจสี่เข้าจับ
ครูเงาะเจริญสติมาตั้งแต่หลังจากที่มีเรื่องบนถนน ก็เริ่มไปฝึกสติ เห็นตัวเองมีสติได้กุศลได้ผลแห่งสติ ผลแห่งสติคืออะไร คือพอเห็นความโกรธ รู้ว่าความโกรธ ก็นึกว่าเราปฏิบัติแล้ว โกรธรู้ว่าโกรธ เศร้ารู้ว่าเศร้า อกหักรู้ว่าอกหัก ตอนนั้นร้องไห้ก็รู้ว่าร้องไห้ ก็ดูมันไป แต่สิ่งที่มันขาดคือ กระดุมเม็ดแรก สัมมาทิฏฐิ สมาธิในมรรค 8 คือข้อแรก ทำไมพระพุทธเจ้าถึงตรัสไว้เป็นข้อแรก เป็นสิ่งที่เหมือนกับท่านบอกว่าพระอาทิตย์ ก่อนจะขึ้นเราจะเห็นแสงแรก แสงที่เราจะรู้ว่าอีกไม่นานพระอาทิตย์จะขึ้น เช่นเดียวกันหากคุณจะทำให้ตัวเองเข้าสู่นิพานคุณต้องเห็นแสงแรก คือสัมมาทิฏฐิ สัมมาทิฏฐิ จึงเป็นธงไชยของทั้งหมด คุณทำทานแต่ไม่มีสัมมาทิฏฐิ คุณก็ได้แค่ระดับบุญ สุดท้ายก็ไปเกิดเป็นเทวดา เทวดาหมดบุญ หมดบุญก็ตกนรกได้
ทุกข์มีไว้รู้ สมุทัยมีไว้ละ นิโรธทำให้แจ้ง มรรคทำให้เจริญ เมื่อมีความทุกข์เกิดขึ้นในจิต ไม่หนี ทนดูความทุกข์นั้นให้ได้ ปัญหาเราคือไม่ทนให้มันดับ ถ้าจะเจริญอริยมรรคในชีวิตจริง ให้ทักว่าสิ่งนี้เป็นความคิดปรุงแต่ง เราแค่รู้ ทุกข์มีไว้รู้ สมุทัยต่างหากที่ให้ละ เกิดจนมันดับเรียกนิโรธ พอมันดับได้ทำให้แจ้ง การเห็นทั้งกระบวนการนี้เรียกว่ามรรค หากเฝ้าดูการเกิดดับนี้ตลอดนี่คือเส้นทางแห่งอริยมรรค
พบกับกิจกรรมเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 12.00-13.30 น. ผ่านช่องทาง facebook fanpage CPALL หรือสามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่ช่องทางเดียวกัน พร้อมรับฟังคติธรรมดีๆ ในช่องทางTikTok ได้ที่ ธรรมะ TikTok.