สนง.สลากฯต่อยอดสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนทั่วไทย หวังลดปัญหาสังคมแบบยั่งยืน
“โฆษกบอร์ดสลากฯ” ระบุ! สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมเดินหน้าต่อยอด “โครงการสลากสรรคสร้างเพื่อชุมชน” หลังเดินทางสู่ปีที่ 5 หวังเชื่อมโยงชุมชนนับแต่เริ่มโครงการในปีแรกถึงปัจจุบัน พร้อมขยายผลปีต่อไปในอนาคต เพื่อพัฒนาศักยภาพให้เป็นชุมชนเข้มแข็ง เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและเติบโตอย่างยั่งยืน เผย! ปีนี้ ได้เพิ่มอีก 10 ชุมชน ขยายรวมเป็น 47 ชุมชนแล้ว ลั่น! เตรียมใช้ทุกช่องทางโปรโมทสินค้าและบริการชุมชน เดินหน้าสร้าง “มาร์เก็ตเพลส” เป็นช่องทางรับออเดอร์และจัดส่งสินค้า พ่วงจัดโชว์สินค้าเด่นในพื้นที่ สนง.สลากฯ ในทุกวันหวยออก
เมื่อช่วงสายวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ณ บ้านสวนบางเตยโฮมสเตย์ ชุมชนเกาะลัดอีแท่น ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม, รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วย คณะผู้บริหารฯ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (GLO) เดินทางมาร่วมพิธีเปิดโครงการสลากสรรคสร้างเพื่อชุมชนปีที่ 5 โดยโฆษกบอร์ดสลากกินแบ่ง ย้ำว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืน โดยไม่หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่คำนึงถึง 3 ปัจจัยหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social, Governance : ESG) และมุ่งหมายที่จะขับเคลื่อนให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ทั้งในส่วนของการบริหารจัดการองค์กร และหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ
โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน ด้วยการส่งเสริมอาชีพและขยายผลการสร้างรายได้ให้กับชุมชนในระยะยาว ผ่านแนวคิดในการขับเคลื่อนด้านการพัฒนาการบริหารจัดการชุมชน ด้านผลิตภัณฑ์ชุมชน และบริการชุมชนที่มีเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้มีสภาพแวดล้อม วิถีชีวิตที่เอื้อต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยว ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม สร้างรายได้ให้กับชุมชน และกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนให้มีความมั่นคงยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต อีกทั้งยังก่อเกิดการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สมควรได้รับการอนุรักษ์และถ่ายทอดให้กับคนรุ่นหลัง เพื่อไม่ให้สูญหายไปกับวิถีสังคมในปัจจุบัน ที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ชุมชนที่เข้าร่วมสามารถพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน และช่องทางการจำหน่ายสินค้า ตลอดจนการท่องเที่ยว สามารถเพิ่มรายได้และยกระดับการบริการได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น
“เราไม่อยากเห็นภาพที่คนหนุ่มสาวต้องจากบ้านเพื่อมาหางานทำในเมือง แล้วทิ้งให้คนสูงอายุต้องอยู่กับเด็กๆ ที่ต่างจังหวัดอีกแล้ว ทั้งยังมีข้อมูลจากกรมราชทัณฑ์ที่ระบุว่า มีวัยรุ่นหนุ่มสาวจำนวนมาก กระทำผิดกฎหมายจนถูกจับกุมคุมขัง กระทั่งเกิดภาพที่คนสูงอายุจูงมือเด็กๆ มาเยี่ยมพ่อแม่ในสถานกักกัน ซึ่งเป็นภาพที่น่าสลดใจอย่างมาก ดังนั้น สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงคิดต่อยอดโครงการที่รัฐบาลเคยทำเอาไว้ในอดีต เช่น โครงการโอทอป, ท่องเที่ยวชุมชน และอื่นๆ ด้วยการดำเนินโครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน ซึ่งปีนี้จัดเป็นปีที่ 5 โดยมีแผนจะขยายผล ต่อยอดและเชื่อมโยงชุมชนที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่ 1 เพื่อหวังส่งต่อความเข้มแข็งถึงกัน พร้อมกันนี้ ยังจะส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนต่างๆ ได้นำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น TikTok ยูทูบ ฯลฯ มาใช้ในการโปรโมทสินค้าและบริการของชุมชนตนเอง ขณะเดียวกัน สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็จะใช้ทุกช่องทางที่มีมาช่วยโปรโมทสินค้าและบริการของทุกชุมชน โดยเฉพาะแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่อาจพัฒนาไปสู่การสร้างมาร์เก็ตเพลส สำหรับรับคำสั่งซื้อและจัดส่งสินค้าให้กับชุมชน รวมถึงใช้พื้นที่ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในการจัดแสดงสินค้าและบริการในทุกๆ วันที่มีการออกสลากกินแบ่งฯ และทำสกู๊ปข่าวแนะนำชุมชนผ่านการถ่ายทอดสดในการออกสลากกินแบ่งฯในทุกๆ งวด” รศ.ดร.ธนวรรธน์ ระบุ
สำหรับโครงการสลากสรรคสร้างเพื่อชุมชนปีที่ 5 นั้น ชุมชนที่สนใจส่งใบสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 21 ชุมชน โดยมีชุมชนที่ได้รับการคัดเลือก 10 ชุมชน ได้แก่ 1. ชุมชนบ้านโอ่งอ่างเกาะเกร็ด ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 2. วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเพื่อสังคมเชียงแสน ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย 3. ชุมชนบ้านมุงเหนือ ตำบลบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก 4. ชุมชนห้วยไร่ ตำบลห้วยไร่ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ 5. ชุมชนบ้านโพธิ์ตาก ตำบลโพธิ์ตาก อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย 6. วิสาหกิจชุมชนเกษตรไม้ผลตำบลภูเงิน ตำบลภูเงิน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ 7. วิสาหกิจชุมชนไทดำบ้านนาป่าหนาด ตำบลเขาแก้ว อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย 8. ชุมชนบ้านแหลมมะขาม ตำบลแหลมงอบ อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด 9. ชุมชนพ่อตาหินช้าง ตำบลสลุย อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร และ 10. ชุมชนท่องเที่ยวบ้านเขาชัยสน ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง
ส่วนขั้นตอนการดำเนินการจะเริ่มจาก การส่งทีมที่ปรึกษาลงไปในพื้นที่ทำงานร่วมกับทั้ง 10 ชุมชน ตั้งแต่การจัดทำแผนการส่งเสริมพัฒนาชุมชน เช่น การจัดทำและออกแบบโลโก้รวมถึงสโลแกนของชุมชน การปรับปรุงเส้นทางการท่องเที่ยวและป้ายบอกเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน การพัฒนาผลิตภัณฑ์และออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีความทันสมัยและเฉพาะตัวสำหรับแต่ละชุมชน การทำแผ่นพับเพื่อการประชมสัมพันธ์ และการตลาดออนไลน์ ต่อด้วยการดำเนินการตามแผนเพื่อพัฒนาชุมชนให้เป็นชุมชนต้นแบบที่มีความเข้มแข็งและยั่งยืน พัฒนาทักษะการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และบริการบนแพลตฟอร์มออนไลน์ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ของสินค้าชุมชน รวมถึงการพัฒนาทักษะคนในชุมชนให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ได้ด้วยตนเอง รวมทั้งนำเรื่องราวการพัฒนาชุมชนของทั้ง 10 ชุมชน มาจัดทำเป็นคลิปวีดิโอ เพื่อนำเสนอการท่องเที่ยววิถีชุมชนและประชาสัมพันธ์สินค้าของชุมชน เผยแพร่ผ่านช่อง Youtuber ที่มีชื่อเสียง และจัดแสดงนิทรรศการผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยได้ประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าของการดำเนินโครงการฯ ผ่านช่องทางต่างๆ ของสำนักงานสลากฯ และ facebook “สลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน”
“โครงการสลากสรรค์สร้างเพื่อชุมชน ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งในปีที่ 5 นี้ เรามีชุมชนที่เข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 47 ชุมชน (ปีแรก 7 ชุมชน และปีที่ 2 -5 มีปีละ 10 ชุมชน) โดยสำนักงานสลากฯ ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สมาชิกในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีเติมเต็มชุมชนให้มีความเข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวสรุป.