เอสซีจี ชวน 500 ชุมชน เลิกแล้ง-เลิกจน ด้วยความรู้คู่คุณธรรม

เอสซีจี ชูความรู้คู่คุณธรรม หนุน 500 ชุมชน “เลิกแล้ง-เลิกจน” พลิกชีวิตเปลี่ยนชุมชนเลิกแล้ง-มีน้ำกินน้ำใช้และทำการเกษตรตลอดปี และเลิกจน-ปลดหนี้ มีอาชีพรายได้เฉลี่ยเพิ่ม 5 เท่าจากการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าพร้อมส่งต่อโอกาสให้กลุ่มเปราะบาง คนพิการ ผู้สูงวัย และผู้มีรายได้น้อย ให้เห็นคุณค่าตัวเองและสร้างรายได้ลดความเหลื่อมล้ำสังคมยั่งยืน

นางวีนัส อัศวสิทธิถาวร ผู้อำนวยการ สำนักงาน Enterprise Brand Management Office เอสซีจี กล่าวว่า“เอสซีจีมุ่งลดความเหลื่อมล้ำสังคมด้วยการส่งเสริมให้ชุมชนพึ่งพาตนเอง มีความรู้ คู่คุณธรรมตามคำสอนของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2550 จากการทำฝายชะลอน้ำซึ่งสร้างไปแล้ว 115,000 ฝาย ควบคู่กับการบริหารจัดการน้ำชุมชน ทำให้ชุมชนมีน้ำกิน-ใช้และเพื่อการเกษตร มีผลผลิต ทั้งยังต่อยอดไปสู่โครงการพลังชุมชน อบรมสร้างอาชีพ แปรรูปผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า ปัจจุบันขยายผลไป 500 ชุมชน กว่า 200,000 คน ใน 37 จังหวัด มีรายได้มั่นคง อาชีพยั่งยืน อีกทั้งยังแบ่งปันองค์ความรู้ และเป็นต้นแบบส่งต่อแรงบันดาลใจให้ชุมชนอื่นๆ เกิดเป็นเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ด้วย 4 ความรู้คู่คุณธรรม ประกอบด้วย รู้เรา: รู้คุณค่าและพัฒนาศักยภาพของตนเอง สร้างมูลค่าจากสิ่งรอบตัว รู้เขา: เข้าใจลูกค้า เข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง รู้จัดการ: วางแผนเพื่อการบริหารจัดการและบริหารความเสี่ยง รู้รัก-สามัคคี: สร้างเครือข่ายชุมชนเข้มแข็งพร้อมช่วยเหลือและแบ่งปัน”

นางอำพร วงค์ษา หรือครูอ้อ ศูนย์หัตถกรรมบ้านงานฝีมือผาหนาม จ.ลำพูน กล่าวว่า “โครงการพลังชุมชนของเอสซีจี สอนให้เห็นคุณค่าในตัวเอง ด้วยการทำงานที่ตัวเองรักและถนัด คือ งานหัตถกรรม เช่น การเย็บปัก ทำดอกไม้ประดิษฐ์ ช่วยสร้างรายได้ให้ครอบครัว และยังได้แบ่งปันความรู้ให้คนในชุมชนที่ว่างงานและกลุ่มเปราะบาง เช่น คนพิการ ผู้สูงวัย ทำงานฝีมือให้มีรายได้ มีงานทำ พึ่งพาตัวเอง และก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้สร้างอาชีพเพื่อสร้างงานให้คนในชุมชน”

นางสาวเกศรินทร์ กลิ่นฟุ้ง หรือแม่หนิง เจ้าของขนมแบรนด์ แม่หนิงภูดอย จ.ลำปาง กล่าวว่า “สิ่งที่ได้เรียนรู้และนำมาปรับใช้โดยพลังชุมชนของเอสซีจี คือการสร้างจุดขายด้วยการสร้างอัตลักษณ์ เช่น ปรับคุ้กกี้ตัวหนอนไส้สับปะรดกลายเป็นรูปไก่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์จังหวัดลำปาง และปรับบรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม น่าซื้อเป็นของขวัญของฝาก รวมทั้งปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานอย. นอกจากนี้ได้เรียนรู้เทคนิคการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ ส่งต่อการจ้างงานให้กลุ่มเยาวชน ผู้สูงวัยใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ และสร้างรายได้ร่วมกัน”

ผู้ใหญ่คงบุญโชติ กลิ่นฟุ้ง ผู้นำชุมชนบ้านสาแพะ จ.ลำปาง กล่าวว่า “เอสซีจีชวนแก้ปัญหาเรื่องน้ำแล้ง-น้ำหลาก ด้วยการสร้างฝายชะลอน้ำ และบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมกับพื้นที่ เช่น การทำแก้มลิง สระพวง และระบบกระจายน้ำเข้าไร่นา ปัจจุบันสามารถปลูกพืชได้ตลอดทั้งปี ทำเกษตรปราณีต เพาะเมล็ดพันธุ์พืช ช่วยสร้างรายได้เฉลี่ยเพิ่ม 4-5 เท่า ชุมชนมีรายได้เฉลี่ยปีละ 20 ล้านบาท”

เอสซีจี เชื่อมั่นว่าหากชุมชนลุกขึ้นมาพึ่งพาตนเอง ใช้ความรู้คู่คุณธรรม มีความรักสามัคคีและบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมกับพื้นที่ โดยใช้ความรู้และเทคโนโลยีในการวางแผน ทำให้มีน้ำกิน-ใช้ ทำการเกษตรและมีผลผลิตตลอดปี ขณะเดียวกันยังต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า ทำให้มีรายได้ อาชีพมั่นคง เกิดเป็นเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งและความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำสังคมได้อย่างยั่งยืน” นางวีนัส กล่าวสรุป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password