“ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. คนที่ 17 เปิดตัวทีมบริหารพร้อมลุยงานทันที ประกาศเริ่มงาน 4 เรื่องเร่งด่วน เตรียมเชิญ กรุงเทพธนาคม ชี้แจงสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว พรุ่งนี้(2 มิ.ย.65)

1 มิ.ย.2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางเข้ารับตำแหน่ง ณ ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า) เวลา 13.19 น. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลาว่าการกทม. ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ประกอบด้วย พระพุทธนวราชบพิตร ศาลพระภูมิ “หลวงปู่มงคลประสาท” ศาลจีน “เจ้าพ่อเพ่งนั้มกิมไช” สักการะพระพุทธชินราช รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 ตลอดทางมีข้าราชการออกมาต้องรับส่งเสียงเฮรับทุกที่ๆเดินผ่าน โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้โบกมือทักทายกับข้าราชการอย่างเป็นกันเอง จากนั้น ร่วมพิธีส่งมอบงานในหน้าที่ ในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร มีคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ บุคลากรกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธี ณ ห้องรัตนโกสินทร์

โดยผู้ว่าฯ กทม. ได้มอบประกาศผลรับรองการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แก่ปลัดกทม. และได้กล่าวทักทายหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ที่มาร่วมพิธีและร่วมแสดงความยินดี โดยกล่าวว่า “ดีใจที่มีเพื่อนร่วมเดินทาง ผมมาร่วมงานกับข้าราชการทุกคน อย่าเรียกผมว่านาย ผมไม่ใช่นาย ให้เรียกอาจารย์ ผมเป็นคนใหม่ของ กทม. นโยบาย 214 ข้อนั้น ทุกคนต้องช่วยกันดูว่า ดีไม่ดีอย่างไร ควรปรับปรุงหรือไม่ หรือจะเพิ่มให้เป็น 300 ข้อ กทม.มีคนเก่งๆ ที่จะร่วมงานกัน เรื่องความโปร่งใส สุจริตต้องเป็นอันดับ1 ผมจะไม่ทนกับทุจริต รวมถึงยืนยันจะมีความยุติธรรมในการแต่งตั้งด้วย ส่วนเรื่องตื่นเช้า ทุกคนทำตามกิจวัตรตัวเองได้ ไม่ต้องมาตามผมตื่นเช้า ลงพื้นที่ให้มาเท่าที่จำเป็นเท่านั้น“ นายชัชชาติ กล่าว

หลังเสร็จพิธีรับมอบตำแหน่ง นายชัชชาติ แถลงเปิดตัวคณะผู้บริหาร ทีมงานผู้ว่าฯ “ชัชชาติ” มีดังนี้ รองผู้ว่าฯ กทม. 4 คน ประกอบด้วย 1.นายจักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. สมัยผู้ว่าฯ อัศวิน ดูแลงานด้านการเงินการคลัง 2.นายวิศณุ ทรัพย์สมพล อดีตรองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดูแลงานโครงสร้างพื้นฐานโยธาจราจร 3.น.ส.ทวิดา กมลเวชช คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดูแลงานด้านภัยพิบัติ และสาธารณสุขและ 4.นายศานนท์ หวังสร้างบุญ สมาชิกกลุ่ม TRAWELL และผู้ร่วมก่อตั้ง Once Again Hostel ดูงานพัฒนาสังคม และการศึกษา

คณะที่ปรึกษา 9 คน ประกอบด้วย 1.นายต่อศักดิ์ โชติมงคล อดีตผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ เป็นประธานที่ปรึกษา 2.นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเสนาดีเวลลอปเมนท์ อดีตอาจารย์คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธานที่ปรึกษาด้านนโยบาย 3.พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม 4.พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ 5.พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี 6.น.ส.วิลาวัลย์ ธรรมชาติ อดีต ผู้ช่วยเลขาฯ รมต.กระทรวงICT และ อดีต ส.ก.เขตจตุจักร ประสานงานการเมือง 7.นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี อดีตที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. สมัยผู้ว่าฯ อัศวิน 8.นายภาณุมาศ สุขอัมพร (มนุษย์ล้อวิลแชร์ ตัวแทนผู้พิการ) และ 9.นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ โดยมี นายภิมุข สิมะโรจน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า และอดีตประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัสโก้ เป็นเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มคณะที่ปรึกษาฝ่ายเทคนิคอีก 30-40 ท่าน ซึ่งเป็นนักวิชาการเชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ที่จะมาร่วมทำงานจะเปิดตัวต่อไป

นายชัชชาติ กล่าวว่า งานที่จะเริ่ม​ทำทันที คือ 1. การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม 2. ความปลอดภัยทางถนนและทางม้าลาย 3. เรื่องหาบเร่แผงลอย ซึ่งได้ย้ำกับปบัดกทม.แล้วว่า ยังคงนโยบายเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง ต้องหาข้อสรุปจุดที่สมดุล และ 4. สัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว จะเชิญบริษัทกรุงเทพธนาคม (เคที) มาชี้แจงในวันพรุ่งนี้

ส่วนเรื่องของงบประมาณปี 2565 ที่เหลือไม่มากนั้น นายชัชชาติ ตอบว่า ที่งบมีน้อยนั้น จากที่มีการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำให้งบหายไปเกือบหมื่นล้าน แต่เท่าที่สอบถามทางปลัดกทม.แล้ว ยังมีเงินที่ค้างจ่ายในระบบ ที่ยังสามารถเรียกคืนมาได้ รวมถึงมีเงินสะสมที่สามารถนำมาใช้ได้ ทั้งนี้ นโยบาย 214 ข้อ มีที่ไม่ใช้เงินสามารถทำได้เลย และเริ่มทำไปแล้ว ซึ่งก็มีหลายนโยบายที่ขับเคลื่อนได้แม้ไม่ต้องใช้งบประมาณ ส่วนที่จำเป็นต้องใช้ก็ต้องรองบปี 2566 สำหรับสภากรุงเทพมหานคร ก็จะเร่งให้เปิดเร็วที่สุด เป็นเรื่องเร่งด่วน ซึ่งสามารถเปิดสภาได้แม้มี ส.ก. 45 คน โดยแจ้งไปยังกระทรวงมหาดไทยขอเปิดประชุมสภากรุงเทพมหานครครั้งแรกได้.