SPRC ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.1785 บาทต่อหุ้น

SPRC อนุมัติการจ่ายเงินปันผล ในอัตรา 0.1785 บาทต่อหุ้น หลังปี 2564 มีกำไร 4,746 ล้านบาท จากความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกที่กำลังฟื้นตัว

มร. โรเบิร์ต โจเซฟ โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำปี 2564 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (4,746 ล้านบาท) โดยมีค่าการกลั่นตลาดเท่ากับ 3.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งสูงขึ้นจากปี 2563 โดยเป็นผลมาจากส่วนต่างของราคาน้ำมันดิบและราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นและความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกที่กำลังฟื้นตัว โดย SPRC ยังคงมุ่งสร้างกำไรอย่างต่อเนื่องผ่านการปรับสัดส่วนการเลือกใช้น้ำมันดิบและผลิตผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมต่อความต้องการของตลาดในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น

ผลการดำเนินงานในปี 2564 ของ SPRC ดีขึ้นโดยมีปัจจัยหลักมาจากค่าการกลั่นตลาดที่เพิ่มขึ้น กำไรจากสต๊อกน้ำมัน และการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตลอดปีที่ผ่าน สอดคล้องกับเศรษฐกิจที่กำลังเริ่มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 SPRC ยังคงมุ่งเน้นและให้ความสำคัญในการทำงานโดยปราศจาก การบาดเจ็บและการติดเชื้อ (injury and infection free) การรักษาความเชื่อถือได้ของโรงกลั่นน้ำมัน เดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง แสวงหาโอกาสและโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มกระแสเงินสดและลดต้นทุน รวมถึงศึกษาโอกาสในการลงทุนในอนาคต เพื่อสร้างความมูลค่าสูงสุดให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน

โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผล ในอัตรา 0.1785 บาทต่อหุ้น การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 60 ของกำไรเบ็ดเสร็จสุทธิของบริษัทฯ ประจำปี 2564 หลังหักขาดทุนสะสม และการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทฯ โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) คือ วันที่ 8 มีนาคม 2565 และจะจ่ายในวันที่ 6 พฤษภาคม 2565

SPRC เผยความสำเร็จของปฏิบัติการเก็บกู้ท่อน้ำมันบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) นายโรเบิร์ต โจเซฟ โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “หลังจากที่ได้ดำเนินการนำน้ำมันออกจากระบบ SPM แล้ว เราได้ดำเนินการนำท่อน้ำมันใต้ทะเลขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2565 โดยปฏิบัติการในขั้นตอนนี้ ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการเก็บกู้ท่อน้ำมันใต้ทะเล ซึ่งเราสามารถยืนยันได้ว่าขณะนี้ไม่มีน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณ SPM แล้ว เราขอเน้นย้ำว่าปฏิบัติการในครั้งนี้มีความซับซ้อนและมีความท้าทายในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งการทำงานในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี เพราะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีและการปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรม สมเหตุสมผล และรวดเร็ว โดยบริษัทได้รับรู้ค่าใช้จ่ายและประมาณการหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลที่ทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล (SPM) เป็นจำนวนเงินประมาณ 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในงวดการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 โดยปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการดำเนินการกับบริษัทประกันภัยในเรื่องเงินประกันซึ่งจะถูกรับรู้เมื่อได้รับเงินดังกล่าว

นอกจากนั้นบริษัทฯ ได้มีการวางแผนการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้แก่ชุมชนท้องถิ่น ตลอดจนวิถีชีวิตของชาวระยอง พร้อมขอบคุณพันธมิตรทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่นที่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตลอดการดำเนินงาน

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password