IAM แถลงผลงานปี ’66 พร้อมวางกลยุทธ์การดำเนินงานเชิงรุกในปี ’67

บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด (บสอ. หรือ IAM) แถลงผลการดำเนินงาน ปี 2566 โดยมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 1,385 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิกว่า 522 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งมาจากการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL)

ทั้งในกลุ่มลูกหนี้รายใหญ่และรายย่อย รวมถึงการจัดการทรัพย์สิน รอการขาย (NPA) ด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบสร้างเครือข่าย ยังคงดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ

พร้อมทั้งกำหนดทิศทางองค์กรสำหรับปี 2567 เตรียมพร้อมดำเนินงานเชิงรุก ในการเพิ่มประสิทธิภาพการรับชำระหนี้ครอบคลุมลูกหนี้ทุกกลุ่มและเพิ่มช่องทาง Digital ในการจำหน่าย ทรัพย์สินรอการขาย (NPA) โดยมุ่งเน้นยกระดับกระบวนการสู่การบริหารงานรูปแบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มศักยภาพในกระบวนการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพและการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย

รวมทั้งส่งเสริมพัฒนาภาพลักษณ์องค์กรต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย(Stakeholder) ตลอดจนการส่งเสริมศักยภาพการบริหารจัดการองค์กรให้มีความเข้มแข็งทั้งในด้านระบบงานและการพัฒนาบุคลากร พร้อมรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน

นางโศรยา ลิมปิทีป ผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด แถลงผลการดำเนินงานในปี 2566 ในด้านการรับชำระหนี้และจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย (Cash Collection) รวม 1,821 ล้านบาท มาจากการรับชำระหนี้จากกลุ่มลูกหนี้รายใหญ่และรายย่อย 1,685 ล้านบาท และการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย 136 ล้านบาท โดยผลประกอบการรับรู้เป็นรายได้จากการดำเนิงานรวม 1,385 ล้านบาท

ขณะที่มีกำไรสุทธิ 522 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 19% จากการเร่งรัดการรับชำระหนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับในด้านการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย บสอ. ได้เพิ่มช่องทางการจำหน่าย บนช่องทางออนไลน์ จัดให้มีการประมูลทรัพย์สินรอการขายในรูปแบบออนไลน์ การออกบูธและลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ Road Show ส่งผลให้รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน

นอกจากนี้ บสอ. ยังตอบสนองนโยบายภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการ โดยได้เข้าร่วมมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ ทั่วประเทศ ซึ่งจัดโดยกรมบังคับคดี จำนวน 5 ครั้ง มีลูกหนี้เข้ารับบริการรวมทั้งสิ้น จำนวน 155 ราย ยอดไกล่เกลี่ยรวมกว่า 60 ล้านบาท

สำหรับทิศทางการดำเนินงานและเป้าหมายในอนาคตนั้น ในปี 2567 บสอ. ยังคงขับเคลื่อนองค์กร พร้อมดำเนินงานเชิงรุก (Strive and Reform) กำหนดวัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์เพื่อยกระดับกระบวนการสู่ดิจิทัล(Enforce Digitize Process) มุ่งเน้นการบริหารจัดการสินทรัพยด้อยคุณภาพและการจำหน่าย NPA ในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยจัดทำแผนปฏิบัติการในการเร่งรัดกระบวนการติดตามการรับชำระหนี้ ทบทวนระบบงาน (Work System) กระบวนการทำงานให้มีการเชื่อมโยงและส่งเสริมการทำงานร่วมกัน ปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการ Outsource ในกระบวนการติดตามหนี้ รวมถึงการขยายช่องทางการจำหน่าย NPA และกำหนดมาตรการส่งเสริมการขาย ที่เหมาะสมเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการบริหารหนี้ และการบริหารทรัพย์สินรอการขาย เช่นการพัฒนาตัวแบบในการวิเคราะห์ Margin ที่เหมาะสมเพื่อการตัดสินใจ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลในการใช้งานร่วมกัน

นอกจากนี้ บสอ. ยังส่งเสริมการพัฒนาภาพลักษณ์องค์กรต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย (Enterprise Image) ในการปรับภาพลักษณ์และสร้างการรับรู้ในบทบาทของ บสอ. และส่งเสริมองค์กรให้มีการดำเนินการอย่างโปร่งใส รวมถึงการส่งเสริมศักยภาพการบริหารจัดการองค์กร (Enhanced Core Business Enablers) โดยการทบทวนกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับเพื่อรองรับการดำเนินงาน และยกระดับระบบบริหารทุนมนุษย์ (HRM) ทบทวนยกระดับแรงจูงใจ ระบบประเมินผล และการจัดการความรู้ (Knowledge Management)

ทั้งนี้ นางโศรยา ลิมปิทีป ยังเน้นย้ำถึงภารกิจและแนวคิดในด้านการบริหารงานเพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งขององค์กรด้วยว่า “จากการเปลี่ยนแปลงเชิงเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น บสอ. ยังได้เตรียมความพร้อมทั้งในด้านระบบและบุคลากร และแผนงานรองรับในเรื่องการวิเคราะห์หา Real Demand สินทรัพย์ด้อยคุณภาพของ SFIs และการจัดเตรียม Pricing Model ในการรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มเติม

รวมถึงการเร่งพัฒนาระบบ DATA Warehouse เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงฐานข้อมูล พร้อมนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนกระบวนการต่าง ๆ รองรับตามแผนการดำเนินงานในปี 2568 – 2570 ในการสร้างความมั่นใจต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อบทบาทใหม่ขององค์กร (Criteria to Obligation) ต่อไป

ซึ่งจากแผนการดำเนินงานดังกล่าว บสอ. มีความมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ สามารถขับเคลื่อนองค์กรต่อไปภายใต้การดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยยังคงให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี และการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล การจัดการองค์ความรู้ นวัตกรรมและการบริหารทุนมนุษย์ ให้สามารถตอบสนองกับสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจทั้งปัจจุบันและการแข่งขันในอนาคต ตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องตามบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อก้าวไปสู่การบรรลุพันธกิจและวิสัยทัศน์ต่อไปได้”.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password