“ดอกเบี้ย”ปรับขึ้น “หนุนกำไร” แบงก์ครึ่งแรกปี66 แตะ 1.2 แสนล้าน เพิ่มขึ้น1.6หมื่นล้าน
ตลาดหลักทรัพย์ เผยการปรับอัตราดกอเบี้ยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธนาคารและสถาบันการเงินมีกำไรเพิ่มขึ้นในครึ่งปีแรกของปี66 พุ่งแตะ 1.2 แสนล้าน เพิ่มขึ้น 1.6 หมื่นล้าน
รายงานข่าวจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี66 ของหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงิน 10 แห่ง ได้แก่ ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ , ธนาคารกสิกรไทย ,ธนาคารกรุงเทพ ,ธนาคารทิสโก้ ,ธนาคารทหารไทยธนชาต ,ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ,ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ,ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเกียรตินาคิน พบว่ามีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 121,918 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,121 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี65 ที่มีกำไรสุทธิ 105,797 ล้านบาท ฟื้นตัวจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ มีกำไรครึ่งแรกปี66 มีกำไรสุทธิ 22,864 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% จาก 20,095 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยฟื้นตัว ,ธนาคารกสิกรไทย มีกำไรสุทธิ 21,735 ล้านบาท ลดลง 1.22% จาก 22,005 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนจากการตั้งสำรอง ,ธนาคารกรุงเทพ มีกำไรสุทธิ 21,423 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14,079 ล้านบาท จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ,ธนาคารทิสโก้ มีกำไรสุทธิ 3,646 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,644 ล้านบาท จากการเติบโตของสินเชื่อ
ขณะที่ธนาคารทหารไทยธนชาต มีกำไรสุทธิ 8,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.6% จาก 6,633 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ค่าบริหารค่าใช้จ่ายและการตั้งสำรองลดลง ,ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย มีกำไรสุทธิ 1,369 ล้านบาท ลดลง 35.3% จาก 2,116 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นและขาดทุนจากการตั้งสำรองฯ , ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 1,202 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.3% จาก 745 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีกำไรสุทธิ 17,102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.1% จาก 15,252 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นและผลจากการควบรวมธุรกิจในต่างประเทศ ,ธนาคารกรุงไทย มีกำไรสุทธิ 20,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จาก 17,139 ล้านบาท ผลจากรายได้จากการดำเนินงานปรับเพิ่มขึ้น การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและบริหารคุณภาพสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ และธนาคารเกียรตินาคิน มีกำไรสุทธิ 3,493 ล้านบาท ลดลง 14.6% จาก 4,089 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนจากการตั้งสำรองฯ.