บ.วันไทยอุตสาหกรรม จำกัด เจ้าของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยำยำ ขานรับ ตลาดพุ่ง รุกหนัก ปรับโฉม และ ออกรสชาดใหม่ แย่งส่วนแบ่งตลาด 2 หมื่นล้าน ทุ่มงบการตลาด 70 ล้าน ตั้งเป้าเติบโต 22%

นายยูจิ มิซุตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด เจ้าของแบรนด์ ยำยำ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเมื่อปี 2565 ตั้งแต่ เดือนม.ค.-ธ.ค. มีมูลค่ารวมของตลาดอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เติบโต 14% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากการปรับราคาของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบซองจากเดิมปกติ 6 บาท เป็น 7 บาท ตั้งแต่เดือนส.ค. 2565

ทั้งนี้ แม้จะปรับราคาขึ้น แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลุ่มแมสยังคงทำยอดขายได้ดี จากราคาที่ตอบโจทย์ในภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลุ่มพรีเมียมก็เติบโตจากเทรนด์การบริโภคของกลุ่มคนรุ่นใหม่และรสชาติที่หลากหลาย ซึ่งปัจจุบัน ยำยำ มีส่วนแบ่งตลาด 21.4% ในเชิงปริมาณ และเป็นอันดับ 2 ในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบเส้นเหลืองในปี 2565

ส่วนเป้าหมายของ ยำยำ ในปีนี้ คาดว่าจะมียอดการเติบโตทั้งปีอยู่ที่ 22% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยจะขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรีเมี่ยม ทั้งแบบซองและแบบถ้วย โดยมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับโฉม และการสื่อสารรูปแบบใหม่ ซึ่งล่าสุดยำยำรุกตลาดหนักอีกครั้ง โดยเปิดตัว ยำยำ สูตรเด็ด โฉมใหม่ และทุ่มงบการตลาด 70 ล้านบาท โดยสื่อสารผ่านสื่อดิจิทัล สื่อนอกบ้านและจัดโปรโมชั่นผ่านทุกช่องทางการขาย พร้อมดึงตัว โบกี้ไลอ้อน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของ ยำยำ สูตรเด็ด

“ตลาดในปีนี้นั้นยังมีการแข่งขันสูง ทุกแบรนด์หันเจาะเซ็กเมนต์พรีเมียม ด้วยการเปิดตัวรสชาติที่หลากหลาย และรสชาติใหม่ เพราะแนวโน้มตลาดปีนี้จะให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมทั้งแบบซองและแบบถ้วย ด้านปัจจัยบวกปีนี้ คือ ความต้องการบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปที่เพิ่มขึ้น จากราคาที่สมเหตุสมผลต่อค่าครองชีพ สะดวกต่อการบริโภค ส่วนปัจจัยลบ คือ ผลกระทบจากต้นทุนพลังงาน แรงงาน วัตถุดิบสำคัญอย่างแป้งสาลี น้ำมันปาล์ม และส่วนผสมสำคัญในเครื่องปรุงรสมีราคาสูงขึ้น ทำให้กําไรของธุรกิจและห่วงโซ่อุปทานมีความผันผวน”