เอสซีจีรวมพลัง 315 พันธมิตร สู้วิกฤตโลกรวน ขับเคลื่อน ESG ทั่วอาเซียน

ทุกภาคส่วนในไทย และพันธมิตรระดับโลก ผนึกพลังความร่วมมือด้าน ESG เป็นครั้งแรกในงาน ESG Symposium 2022 มุ่งเร่งแก้วิกฤตซ้ำซ้อน เผยข้อสรุปเร่งดันแผนจัดตั้งกลุ่มความร่วมมือพัฒนานวัตกรรม Net Zero ครั้งแรกในประเทศ เพื่อระดมความรู้ เทคโนโลยีจากทั่วโลก  ขณะที่ภาคเอกชนประกาศคำมั่นเดินหน้าเชิงรุกขยายเครือข่าย ความร่วมมือเพื่อสร้างเศรษฐกิจสีเขียวตลอดห่วงโซ่คุณค่า พร้อมจับมือภาครัฐด้วย 10 แนวทางมุ่งสังคมคาร์บอนต่ำ อาทิ โครงสร้างพื้นฐานเอื้อการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน สนับสนุนเงินทุน จัดระบบการจัดเก็บขยะที่มีประสิทธิภาพ  และการออกแบบที่ยั่งยืน

รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยในงาน ESG Symposium 2022 :Achieving ESG and Growing Sustainability ว่า  เอสซีจีได้ยกระดับ SD Symposium ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 สู่  ESG Symposium เพื่อขยายพลังความร่วมมือตามแนวทาง ESG ซึ่งเป็นทางรอดเดียวที่จะช่วยแก้วิกฤตซ้ำซ้อนที่กำลังเผชิญอยู่ ที่ผ่านมาเวทีดังกล่าวผลักดันความร่วมมือจากระดับโลกเชื่อมโยงสู่ระดับประเทศ สร้างการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขวิกฤตที่เกิดผลเป็นรูปธรรม เช่น สร้าง Roadmap ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของอุตสาหกรรมซีเมนต์และคอนกรีตในไทยกับสมาคมซีเมนต์และคอนกรีตโลก เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ของไทยให้บรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2050 ให้เป็นทิศทางเดียวกับระดับโลก พร้อมเตรียมนำแผนงานดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุม COP 27 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ที่อียิปต์

นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือแก้ปัญหาขยะพลาสติกในมหาสมุทรอย่างยั่งยืนกับ Alliance to End Plastic Waste- AEPW ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่เกิดจากความร่วมมือของกลุ่มบริษัทที่ทำงานร่วมกันในห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมพลาสติก ตั้งแต่ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้บริโภค จนถึงผู้ที่จัดการพลาสติกหลังจากใช้แล้ว เป็นต้น

นายรุ่งโรจน์ กล่าวต่อไปว่า แม้ที่ผ่านมา คนได้เริ่มตื่นตัว ตระหนักถึงปัญหา และลุกขึ้นมาลงมือทำ ทั้งระดับบุคคล ชุมชน และประเทศ ตลอดจนมีความร่วมมือเกิดขึ้นมากมายทั่วโลก  แต่ก็ยังไม่ทันต่อวิกฤตโลกที่ทวีความรุนแรงและใกล้ตัวมากขึ้น  ขณะที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1.1 องศา หากไม่เร่งแก้ไขจนอุณภูมิโลกร้อนเกินเป้าหมายที่ 1.5 องศา โลกจะเปลี่ยนแปลงจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้แบบเดิม ถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ทุกคน ทุกหน่วยงานต้องเริ่มลงมือแก้ไขด้วยตนเอง เริ่มจากการปรับพฤติกรรมง่ายๆ ใกล้ตัวและขยายไปสู่ความร่วมมือเพื่อแก้ไขให้ทันท่วงที 

“การจัดงาน ESG Symposium 2022 ครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเร่งขยายพลังความร่วมมือให้มากขึ้นและทันต่อวิกฤตโลก ทั้งในบริบทของสิ่งแวดล้อม สังคมเหลื่อมล้ำ โดยยึดถือความโปร่งใส เป็นพื้นฐานสำคัญในทุกการดำเนินงาน”

ธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม

ด้าน นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ในฐานะ ประธานคณะกรรมการร่วม การพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี เปิดเผยว่า จากการระดมสมองของทุกภาคส่วนในงานได้ข้อสรุป  2 แนวทาง ที่นำไปสู่การขยายผล และการลงมือปฏิบัติได้จริง  เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2065 ดังนี้

1.จัดตั้งกลุ่มความร่วมมือเร่งสร้างนวัตกรรมเพื่อ Net Zero ผ่าน Industrial and Academic Consortium ครั้งแรกในไทย ที่ระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งระดับโลกและระดับประเทศ มีนักวิชาการ ผู้บริหารระดับสูงจากหลากหลายส่วน สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ สมาคมคอนกรีตโลก สภาอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน  สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ  (สอวช.) เป็นผู้ขับเคลื่อน

ความร่วมมือนี้ มีเป้าหมายเร่งทำโรดแมปสร้างนวัตกรรมช่วยลดการปล่อยคาร์บอนที่ดีที่สุดมาใช้ในไทย เช่น เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน การเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงจากฟอสซิลเป็นพลังงานทางเลือก พลังงานไฟฟ้า และระบบพลังงานที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง คาดว่าจะมีความชัดเจนปลายปีนี้

2.ผนึกกำลังขยายเครือข่ายสร้างสังคมคาร์บอนต่ำของภาคเอกชน 60 องค์กร ผ่านความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ครอบคลุมมิติด้านพลังงานทางเลือก เศรษฐกิจหมุนเวียน ที่ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า รวมถึงการสนับสนุนให้เกิดการบริโภคอย่างยั่งยืน เช่น กลุ่มเครือข่ายความร่วมมือ 23 องค์กรธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน  และโครงการความร่วมมือ PPP Plastics สร้างต้นแบบการจัดการขยะพลาสติก นำกลับมาสู่กระบวนการรีไซเคิล ขับเคลื่อนโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI)  องค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) และพันธมิตรกว่า 30 องค์กร   โดยจากการระดมสมองของภาคเอกชนในครั้งนี้ ได้นำไปสู่ความร่วมมือกับภาครัฐเดินหน้า 10 แนวทางการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ อาทิ โครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน สนับสนุนด้านเงินทุน สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับพลังงานสะอาด  การจัดระบบการจัดเก็บขยะที่มีประสิทธิภาพ การส่งเสริมวินัยการคัดแยกขยะตั้งแต่ครัวเรือน รวมถึงสนับสนุนองค์ความรู้ เทคโนโลยีการพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ งาน ESG Symposium 2022 ยังให้ความสำคัญกับการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ส่งเสริมบทบาทของผู้หญิงและกลุ่มคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและแก้ไขวิกฤตต่างๆ ร่วมกัน เนื่องจากผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในการดูแล จุนเจือครอบครัว รวมถึงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของชุมชน และประเทศชาติ พร้อมชวนสังคมให้เชื่อมั่นในศักยภาพของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวคิด มีความสามารถแตกต่างหลากหลาย เป็นพลังช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางทั่วอาเซียน เช่น ตัวแทนเยาวชนอินโดนีเซีย ที่พัฒนานวัตกรรมม้วนฟิล์มพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับคนมีรายได้น้อย หรือตัวแทนเยาวชนไทยที่พัฒนาโปรแกรมแปลภาษามือ ช่วยคนพิการใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากขึ้น  

“การแก้วิกฤตโลกถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ทุกคน ทุกหน่วยงาน ต้องเริ่มลงมือแก้ไขด้วยตนเอง รวมทั้งผนึกกำลังความร่วมมือให้เกิดผลจริง เชื่อมั่นว่าข้อสรุปความร่วมมือจากเวที ESG Symposium 2022 จะได้นำไปปฏิบัติให้เกิดผลประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมและขยายผลในวงกว้างตามแผนงานต่อไป โดยเอสซีจี ยินดีเป็นตัวกลางประสานกับทุกๆ ฝ่าย พร้อมกับเร่งติดตามความคืบหน้า เพราะปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการขับเคลื่อนคือ โครงการความร่วมมือต่างๆ ก้าวหน้า และทุกคนในห่วงโซ่คุณค่าได้รับประโยชน์ เพื่อร่วมสร้างเศรษฐกิจสีเขียวตามแนวทาง BCG และส่งต่อโลกที่ยั่งยืนให้กับลูกหลานต่อไป” นายรุ่งโรจน์ สรุป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password