‘ขนมหม้อแกงลุงอเนก’ วางขายเซเว่นฯ แจ้งเกิดใน 2 ด. สร้างยอดขายปังกว่า 4 แสนต่อวัน

Gen 3 ‘ลุงอเนกขนมหวานเมืองเพ็ชร์’ ส่ง ‘ขนมหม้อแกง’ ขายเฉพาะที่เซเว่นฯ สร้างยอดขายกว่า 400,000 บาทต่อวัน พร้อมดัน Soft Power ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก

ในวงการขนมหวานชื่อดังเมืองเพชรบุรี หากพูดชื่อ โรงงานลุงอเนกขนมหวานเมืองเพ็ชร์” ถือว่าไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะเรื่องความอร่อย สดใหม่ การชูวัตถุดิบดั้งเดิมในท้องถิ่นมาสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยโจ้ – ประวิทย์ เครือทรัพย์ ทายาทรุ่นที่ 3 ได้ผันตัวจาก “พ่อค้าขายขนมในออฟฟิศ” ปรับตัว คิดนอกกรอบ สร้างความต่างมาต่อยอดธุรกิจครอบครัว และเคยได้รับรางวัล Inventor Awards จากเวที 7 Innovation Awards 2024 ล่าสุดพัฒนาสินค้าใหม่ “ขนมหม้อแกงกะทิสดเผือกหอม ลุงอเนก” ส่งขายเฉพาะร้านเซเว่นฯ และสามารถแจ้งเกิดหลังวางจำหน่ายได้ภายใน 2 เดือน กลายเป็นสินค้า SME ขายดี สร้างยอดขายกว่า 400,000 บาทต่อวัน

โจ้ – ประวิทย์ เครือทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพชรบุรี ไทยดีเสิร์ท จำกัด ผู้บริหารหนุ่มลูกหลานเมืองเพ็ชร์ วัย 42 ปี เล่าถึงความเป็นมาว่า ธุรกิจนี้เริ่มต้นจากขนมไทยรสชาติต้นตำรับรุ่นคุณย่า ที่ได้รับการสืบทอดเรื่อยมาจนมีโรงงานลุงอเนกขนมหวานเมืองเพ็ชร์ ที่หมู่บ้านลาดโพธิ์ ต.สํามะโรง จ.เพชรบุรี เป็นโรงงานผลิตขนมไทยโบราณ ไม่ว่าจะเป็น หม้อแกง ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทองถ้วยฟู ฯลฯ ที่คงรสชาติแต่โบราณ และคงวัตถุดิบท้องถิ่น ส่วนตัวเขาเอง เริ่มสนใจธุรกิจขนมของที่บ้านในช่วงวัย 28 ปีระหว่างทำงานด้านวิศวกรรมแถวสนามบินสุวรรณภูมิ

ผมบุกเบิกขายขนมในออฟฟิศ เสาร์อาทิตย์กลับบ้าน ก็ขนขนมของคุณพ่อกลับมาขายในที่ทำงาน เพราะมองเห็นว่าขนมเพชรบุรี ไม่เห็นต้องขายแค่ที่เพชรบุรี ซึ่งผลตอบรับดี ขายดีมาก คนที่ออฟฟิศชอบกัน ผมก็คิดนะหรือเราจะเอาดีด้านนี้ไปเลย และยังได้ทำงานที่บ้านเราด้วย เลยเป็นแรงผลักดันให้ผมกลับมาต่อยอดขายขนมที่บ้านเกิด ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจครอบครัวด้วย”

หลังจากคุณพ่อส่งไม้ต่อให้รุ่นลูก ประวิทย์ก็เข้ามาลุยธุรกิจเต็มตัว พร้อมความมุ่งมั่นที่จะยกระดับขนมไทยของชาวเพชรบุรีให้มีมาตรฐานทั้งความอร่อย สะอาด และปลอดภัย อีกทั้งสร้างวงการขนมเพชรบุรีให้ไปได้ไกลกว่านี้ เพื่อให้คนรู้จักขนมหม้อแกง เหมือนคนนึกถึงต้มยำกุ้ง ผัดไทย ข้าวเหนียวมะม่วง จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติขนมไทยต้นตำรับที่สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นคุณย่า และที่สำคัญคือการพัฒนาชุมชน อยากกระจายรายได้สู่ชุมชน สร้างงานสร้างอาชีพให้กับชาวเพชรบุรีอย่างยั่งยืน

เขาเริ่มจากการเป็นเจ้าแรกในจังหวัดที่นำขนมหวานของเพชรบุรีไปจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ ได้แก่ เว็บไซต์ ไลน์ และเฟซบุ๊ก และทำขนมส่งไปต่างจังหวัดได้ทั่วประเทศ ผ่านรถ บขส. รถตู้ รถทัวร์ ตอนนั้นขายทั้งปลีกและส่ง รวมถึงรับจ้างผลิต (OEM) ให้แก่คนที่ต้องการนำไปตีแบรนด์เอง ต่อมาเขาเริ่มคิดปรับปรุงแพ็คเกจให้หีบห่อสวยขึ้น และเริ่มนำชื่อของคุณพ่อมาสร้างเป็นชื่อแบรนด์ “ลุงอเนก” พัฒนาโรงงานที่ผลิต-จำหน่ายขนมหวานพื้นเมืองเพชรบุรีจนได้มาตรฐาน อาทิ มาตรฐาน GHP/HACCP มาตรฐาน อย. มาตรฐานอาหารฮาลาล และล่าสุด กับการผลักดันและยกระดับขนมหม้อแกงเข้าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น

วันนี้ ขนมหม้อแกงเมืองเพชร ไม่ได้ดังเหมือนแต่ก่อน เพราะที่ไหนก็ทำขายได้ หาซื้อได้ง่ายขึ้น แบบไม่ต้องเดินทางมาถึงเพชรบุรี ผมมองว่าเทรนด์มันเปลี่ยนไป เราไม่ได้ขายดีเหมือนเดิมแล้ว ผมจึงมาคิดว่าจะขยับขยายขนมเรายังไง ให้หาซื้อได้ง่าย สะดวก สามารถเก็บได้ สดใหม่เสมอ ผมก็พยายามเรียนรู้และพัฒนาสินค้าอยู่เสมอ เพื่อนำเสนอสินค้าเข้าเซเว่นฯ ให้ได้”

ที่ผ่านมา เขาพยายามอย่างหนัก เพื่อให้ได้ร่วมงานกับพันธมิตรอย่าง เซเว่นฯ จนได้พัฒนาสินค้าขนมไทยโบราณร่วมกัน โดยทางทีมเซเว่นฯ ให้คำแนะนำมาว่า สินค้าต้องเหมาะกับคนยุคใหม่ มีความคุ้มค่าเหมาะสม จนคลอดมาเป็น “ขนมหม้อแกงกะทิสดเผือกหอม” สินค้าตัวแรกที่ผลิตและจำหน่ายเฉพาะในเซเว่นฯ ที่มีจุดเด่นเรื่องความอร่อย สดใหม่ แพ็คเกจจิ้งขนาดพอเหมาะ กินพอดีอิ่ม หวานน้อย น่าทาน โดยจำหน่ายในราคา 29 บาท ตั้งแต่เริ่มจำหน่ายเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 สัปดาห์แรกที่เข้าขาย ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี ขายหมดด้วยความรวดเร็ว ทำให้บริษัทเพิ่มกำลังการผลิต เพิ่มพนักงาน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าร้านเซเว่นฯ มากถึง 14,000 ชิ้นต่อวัน

เสน่ห์ของขนมหม้อแกงกะทิสดเผือกหอม ลุงอเนก อยู่ที่การใช้วัตถุดิบชุมชนที่เป็นของดีเมืองเพชรบุรี ทั้งน้ำตาลโตนด น้ำตาลมะพร้าว ไข่เป็ด เผือกหอม ที่ผลิตในระบบปิด ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล การทุ่มทุนนำเข้าอุโมงค์อบขนมขนาดใหญ่ในการผลิตขนมให้ได้จำนวนมากและเพื่อควบคุมมาตรฐานความอร่อย คุณภาพ โดยเฉพาะสีของขนมไม่ให้อ่อนหรือเข้มจนเกินไป ซึ่งสินค้าขนมหม้อแกง สามารถสร้างยอดขายมากกว่า 400,000 บาทต่อวัน

อีกหนึ่งความตั้งใจของผม คือ การเดินหน้าพัฒนา สร้างงาน สร้างอาชีพให้คนในชุมชน ปัจจุบันโรงงานเรามีพนักงานทั้งหมด 120 คน ซึ่งประมาณ 80% เป็นคนท้องถิ่น แม้แต่วัตถุดิบที่ใช้ทำขนมในโรงงาน หลักๆ มาจากในพื้นที่ เช่น ไข่เป็ด ปัจจุบันใช้วันละ 20,000 ฟอง ก็มาจากในชุมชนทั้งหมด เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้ให้กับคนในชุมชน จากการนำ Soft Power อย่างขนม มาพัฒนาชุมชนให้ยั่งยืน” ประวิทย์ กล่าวอย่างภูมิใจ

เพราะ “ความสำเร็จ” ไม่ได้อยู่แค่ผลผลิต แต่อยู่ที่ได้เห็นคนในชุมชนเติบโตไปพร้อมๆ กัน ตั้งแต่คนในชุมชนมีงานทำ ซัพพลายเออร์ในชุมชนส่งวัตถุดิบได้ต่อเนื่อง สามารถผลิตสินค้าได้มาตรฐาน ผู้บริโภคชื่นชอบสินค้า และกลับมาซื้อซ้ำ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password