The Man Behind : นักยุทธศาสตร์ผู้อิงทฤษฎีคณิตศาสตร์การเมือง

“ทีมข่าวยุทธศาสตร์” มีโอกาสสัมภาษณ์ และพูดคุยกับ…นักยุทธศาสตร์เลือกตั้งจากภูธร  เขาคนนี้ มีชื่อว่า ธนาวัฒน์ วารีสมานคุณ ชายผู้ชื่นชอบวิถีการทำงานหนัก “อยู่เบื้องหลัง” ให้กับบรรดานักเลือกตั้งแห่งเมืองปราจีนบุรี มุมมองการเมืองของเขาจะเป็นเช่นใด? ทำไมถึงได้ชื่อว่าเป็น The Man Behind : นักยุทธศาสตร์ผู้อิงทฤษฎีคณิตศาสตร์การเมือง ลองไปสำรวจกันดู…

ธนาวัฒน์ วารีสมานคุณ 

คณิตศาสตร์การเมือง! คำนี้… “ทีมข่าวยุทธศาสตร์” ไม่ค่อยได้ยินบ่อยนักในทางการเมือง 

ทว่า “นักยุทธศาสตร์เลือกตั้ง” อย่าง…ธนาวัฒน์ วารีสมานคุณ ชายผู้ชื่นชอบที่จะยืนอยู่เบื้องหลังของบรรดานักเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี รวมถึงพื้นภาคตะวันออกของพรรคภูมิใจไทย ภายใต้ความรับผิดชอบของ ตระกูล “วิลาวัลย์” กลับเลือกที่จะนำ “จุดเด่น” ที่พิสูจน์ทราบได้จากทฤษฎีคณิตศาสตร์ มาใช้ในการวางยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ในการเลือกตั้งระดับชาติ

เหตุผลคือ ทุกคะแนนเสียงของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ล้วนมาจากผู้คนที่อาศัยอยู่ในเขตเลือกตั้งนั้นๆ พื้นที่เลือกตั้งกว้างใหญ่แค่ไหน? จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากเท่าใด? ล้วนมีคุณค่า ความหมาย และความสำคัญ

พื้นที่แต่ละเขตเลือกตั้ง…ผู้คนย่อมประสบปัญหา หรือมีความต้องการที่แตกต่างกัน

ข้อมูลทางสถิติและผลสำรวจจากการลงพื้นที่แบบเกาะติด ชนิดถึงลูกถึงคน ถูกนำมาผูกโยงกับข้อมูลของส่วนราชการในพื้นที่ โดยที่ “นักยุทธศาสตร์เลือกตั้ง” อย่างเขา…ไม่หวังพึ่งพิงเฉพาะข้อมูลตัวเลขสถิติที่เจ้าหน้าที่รัฐ หรือคนใต้บังคับบัญชานำเสนอมาเท่านั้น

หากแต่ต้องได้มาจากการบุกน้ำลุยโคลน…สัมผัสกับชาวบ้านในพื้นที่ด้วยตัวเอง

เพื่อนำข้อมูลตัวเลขสถิติที่ได้จากหลากหลายแหล่งมาประมวลผล มาใช้ประกอบการวางกลยุทธ์เชิงลึก ในระดับแผนยุทธศาสตร์สำหรับการเลือกตั้งแต่ละครั้ง

กนกวรรณ วิลาวัลย์

“ทีมข่าวยุทธศาสตร์” ถือโอกาสนี้…พูดคุยต่อ! ถึงที่มาและที่ไปของ…ชายผู้อยู่เบื้องหลัง หรือ The Man Behind กับประติมากรรมในทางการเมือง ที่ตัวเขาได้เลือกแล้ว…

“ธนาวัฒน์” เล่าให้ฟังว่า…คราวที่ตัวเขาได้รับมอบหมายจากบ้านใหญ่ “วิลาวัลย์” ให้เป็นคนวางกลยุทธ์ในการสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมฯ เมื่อเดือนมกราคม 2553 ภารกิจคือ…จะต้องนำพา “อำนาจ วิลาวัลย์” (หรือ ส.ท.กบ) หลานชายคนเดียว (ในเวลานั้น) ของ สุนทร วิลาวัลย์ อดีตรมช.สาธารณสุข และ ส.ส.ปราจีนบุรี 8 สมัยซ้อน (ปัจจุบันเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี) เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรให้ได้

แม้ “อำนาจ” จะมีดีกรีเป็น…สมาชิกสภาเทศบาลเมืองปราจีนบุรี แต่ “คู่แข่ง” ที่ชื่อ…พล.อ.สิทธิ์ สิทธิมงคล จากพรรคเพื่อไทยถือว่า…มาแรงมากๆ ทั้งจากกระแสพรรคและกระแส “คนเสื้อแดง”

สารพัดตัวช่วยที่ “คู่แข่ง” มี…ไม่ว่ากระแส หรือการดึงเอาบรรดานักการเมืองคนดังของพรรคฯ เกือบทุกคนมาช่วยหาเสียงบนเวทีเลือกตั้งซ่อมฯ แม้กระทั่ง การโฟนอินจาก “คนต่างแดน” เป้าหมายก็เพื่อ…กำจัด “ว่าที่ ส.ส.คนแรก” ของพรรคภูมิใจไทย หลังจากมีวลีเด็ด “มันจบแล้วครับนาย…” จากคนสำคัญของพรรคฯ หลุดออกให้ได้ยินก่อนหน้านั้น

สุนทร วิลาวัลย์

ทว่า ทฤษฎีคณิตศาสตร์เมือง ที่ถูกผสานเข้ากับกลยุทธ์การเลือกตั้ง ผ่านวลีเด็ด “เลือกผู้แทนฯให้เหมือนญาติ เลือกอำนาจ วิลาวัลย์” มาพร้อมกับการเดินสายลงพื้นที่ “ขึ้นเขา – ลงห้วย” กับ 721 หน่วยเลือกตั้ง ภายในเดือนเดียว

ด้วยเพราะระลึกเสมอว่า…บทบาทหน้าที่ของ ส.ส. คือ สามารถจะแทนทุกข์…แทนสุขให้กับชาวบ้านได้ วันใดก็ตามที่เขามีทุกข์แล้วนึกถึงเรา นั่นแหล่ะคือ การทำหน้าที่ของ ส.ส. ไม่ใช่หน้าที่ที่จะไปปรากฏตัวตามงานศพ งานบวช งานแต่ง ฯลฯ อย่างที่ ส.ส.หลายคน ในหลายจังหวัดทำกัน 

ปรากฏการณ์นี้…ได้สร้างผลประจักษ์อันเกิดจากมติเสียงข้างมากของชาวปราจีนบุรี สรุปออกมาโดย คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นั่นคือ… “อำนาจ” มีชัยเหนือ “พล.อ.สิทธิ์” ชนิด…ชนะกันถล่มทลาย!

คะแนนเสียงที่ปรากฏออกมา คือ หนึ่งแสนสองเศษๆ : 6 หมื่นเสียงนิดๆ

นับเป็นการ “ปักหมุด” หน้าประวัติในทางการเมือง สร้าง ส.ส.คนแรกให้กับพรรคภูมิใจไทย และสร้างความภาคภูมิใจให้กับหัวหน้าพรรคฯและกรรมการบริหารพรรคฯ รวมถึง “สุนทร” และคนในบ้านใหญ่ “วิลาวัลย์” ด้วย

ผลงานจากตรงจุดนั้น แม้ไม่ได้ทำให้ชื่อเสียงของ “ธนาวัฒน์” โด่งดังในเวทีการเมือง ไม่ว่าจะในระดับใดก็ตาม แต่เขาก็ได้รับความไว้วางใจในฐานะ “นักยุทธศาสตร์เลือกตั้ง” ให้กับคนในตระกูลใหญ่แห่งจังหวัดปราจีนบุรี

อำนาจ วิลาวัลย์

เพราะในเวลาต่อมา…ตระกูล “วิลาวัลย์” ได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทย ให้ดูแลรับผิดชอบการเลือกตั้งในพื้นที่ 23 เขตเลือกตั้งของภาคตะวันออก และเป็น “ธนาวัฒน์” ที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ “นักยุทธศาสตร์เลือกตั้ง” ให้กับคนบ้านใหญ่ฯ

“นิสัยผม….ถ้านายไม่ถาม ผมจะไม่พูด แต่ถ้าถาม…ผมจะพูดจนหมด หน้าที่ผมคือ ย่อยจากสิ่งที่กว้างๆ จนเหลือแคบๆ แล้วก็แยกให้ว่า…นี่คือเนื้อ นี่คือน้ำ เนื้อมีเนื้อไทย เนื้อโกเบ ส่วนน้ำมีธรรมดา กับน้ำสต๊อก ให้ข้อมูลรอบด้าน แต่จะไม่ตัดสินใจแทนนาย ปล่อยให้นายเลือกและตัดสินใจเอง” 

นั่นคือความคิดของ “นักยุทธศาสตร์เลือกตั้ง” อย่าง… “ธนาวัฒน์” เช่นเดียวกัน เขาเชี่อว่า..คู่แข่งในทางการเมืองไม่ใช่ศัตรูดังนั้น ในการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 2554…เขาเคยเสนอให้ส่งสารถึง “ว่าที่ผู้สมัคร” จากพรรคคู่แข่งฯ เพื่อดึงให้มาลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคภูมิใจไทย เมื่อถูกปฏิเสธ….การทำศึกเลือกตั้ง ส.ส. จึงเกิดขึ้น!

กลยุทธ์ที่อิง ทฤษฎีคณิตศาสตร์เมือง ถูกนำมาใช้อีกครั้ง มีการลงพื้นที่พบพี่น้องประชาชนแบบเกาะติด นำข้อมูลทุกด้านมาวิเคราะห์และประเมินผล จนได้บทสรุปที่จะนำไปเป็นแผนยุทธศาสตร์การดึงคะแนนเสียงจากคู่แข่ง ผ่านยุทธวิธี “ดึงผู้หญิงเลือกผู้หญิง”

เนื่องจากคู่แข่งฯเป็นหนุ่มหล่อ? สาวแก่แม่ม่าย…ต่างเกาะติดล้อมตัวในทุกพื้นที่ที่เดินทางไปหาเสียง

ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่เป็นชาย…อาจรู้สึกหมั่นไส้ เมื่อเห็นบรรดาสาวๆ ออกอาการ “ก้อร่อก้อติก” กับผู้สมัครหนุ่มรายนี้ นั่นก็หมายความว่า…โอกาสจะดึงคะแนนเสียงจากกลุ่มผู้ชายในพื้นที่ ก็ย่อมมีสูง!

เมื่อเสริมด้วย ยุทธวิธี “หญิงเลือกหญิง” สนับสนุนให้ผู้สมัครฯสุภาพสตรี ของพรรคฯได้เข้ามาแก้ไขปัญหาของผู้หญิงด้วยกัน มันจึงเกิดเป็น “แรงบวก”

“ผมจะไม่สร้างศัตรู ไม่กล่าวหาหรือหักหาญน้ำใจคู่แข่งในทางการเมือง แต่จะเลือกขายจุดแข็ง นำเสนอจุดเด่นที่ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มี และนโยบายของพรรคฯที่จะทำให้กับพี่น้องประชาชน”

สุดท้าย…คนปราจีนบุรี ก็ได้ ส.ส.สุภาพสตรี ที่มีชัยชนะเหนือบุรุษหนุ่มหล่อแบบไม่เห็นฝุ่น!

นับเป็นอีกหนึ่งผลงาน “ชิ้นโบว์แดง” ของ “ธนาวัฒน์” ผู้ได้ชื่อว่าเป็น…“นักยุทธศาสตร์เลือกตั้ง” แห่งเมืองปราจีนบุรี

จากวันนั้น ส่งผลต่อถึงการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เมื่อปี 2562 เพราะได้ทำให้ จังหวัดในพื้นที่ตั้งของตระกูล “วิลาวัลย์” กลายเป็นเนื้อเดียวกัน

กินรวบ! ส.ส.ปราจีนบุรีครบทั้ง 3 เขต จนถึงทุกวันนี้…

ความสัมพันธ์ระหว่าง “ธนาวัฒน์” กับบ้านใหญ่ “วิลาวัลย์” ยังคงไปได้สวย…และเป็นเขาที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่…หัวหน้าคณะทำงานประจำสำนักงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์) และเลขานุการประจำตัวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อปี 2562 รวมถึงขึ้นชั้นทำหน้าที่เป็น… ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในปี 2563 จนถึงปัจจุบัน

“ธนาวัฒน์” เล่าเพิ่มอีกว่า…รัฐมนตรี ดร.กนกวรรณ และตัวเขา ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน ใช้เวลาเพียงแค่ปีครึ่ง เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยงานในสังกัด ทั้ง 3 แห่งงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย…สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ…ได้ทั่วประเทศและครบทุกจังหวัด

นี่ยังไม่ร่วม “ภารกิจพิเศษ” ที่ได้รับมอบหมายแถมเข้ามาแทรกกลางครัน!…ไม่ว่าจะเป็นการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ แม้จะไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบดูแล ก็ตาม เช่น น้ำท่วมโรงเรียนในสังกัด สพฐ. หรือเกิดอุบัติเหตุกับรถโรงเรียนและเด็กนักเรียน ฯลฯ

พูดได้เต็มปากว่า…ดร.กนกวรรณ นับเป็นอีกหนึ่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ขยันสุดๆ

ทุกครั้งของการเดินสายตรวจเยี่ยมหน่วยงานในสังกัด กับทุกพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดารทั่วประเทศ จะยึดหลักการสำคัญ นั่นคือ จะต้องไม่กระทบกับ “ภารกิจหลัก” ของกระทรวงศึกษาธิการ, ของรัฐบาล (ประชุมคณะรัฐมนตรี) และ ของพรรคภูมิใจไทย ทั้งการเข้าร่วมประชุมพรรคฯหรือเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อ “ทีมข่าวยุทธศาสตร์” ถามถึง…อนาคตในทางการเมืองของ The Man Behind จะเป็นอย่างไร? มีโอกาสขยับและผันตัวเองจาก…“นักยุทธศาสตร์เลือกตั้ง” สู่ความเป็น ส.ส.หรือตำแหน่งที่สูงกว่านั้น หรือไม่?

แต่คำตอบที่ได้รับคือ.. “ผมมีความสุขกับการทำงานอยู่เบื้องหลัง ผมชอบที่จะเป็น “ปฏิมากร” ในทางการเมือง ทำหน้าที่เป็นนั่งร้านฯ เป็นนักวางแผน เป็นนักยุทธศาสตร์เลือกตั้ง มากกว่าจะเป็น ส.ส. ทุกวันนี้…มีความสุขกับบทบาทหน้าที่และงานที่ทำ”

บรรทัดสุดท้ายนี้ “ทีมข่าวยุทธศาสตร์” หวังใจว่า “ธนาวัฒน์ วารีสมานคุณ” หรือ “เลขาฯเก๋” ที่ข้าราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ…ต่างเรียกขาน จะมีเส้นทางที่โดดเด่นและโลดแล่นอยู่บนถนนการเมืองไทยมากกว่าการเป็นแค่เพียง…

The Man Behind!!!.

(รออ่านฉบับเต็ม “ข่าวเกี่ยวเนื่อง” ได้ที่เว็บไซต์ยุทธศาสตร์ออนไลน์ -www.yutthasartonline.com)

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password