กรอ.ปลื้มเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ สร้างงาน สร้างอาชีพ กว่า 300 ลบ.
กรอ.ปลื้ม ผลงานเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ สร้างงาน สร้างอาชีพ กว่า 300 ล้านบาท ประกาศครบ 54 พื้นที่ 39 จังหวัด มุ่งสู่ต้นแบบ ‘เมืองน่าอยู่ คู่อุตสาหกรรม’
นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ได้ดำเนินการตามแผนงานยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ที่มีการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมให้เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จัดทำโครงการพัฒนาและยกระดับเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Town) เพื่อสร้างต้นแบบ ‘เมืองน่าอยู่ คู่อุตสาหกรรม’ ที่มีเศรษฐกิจดี สิ่งแวดล้อมดี สังคมมีความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดี ประชาชนมีความสุขและอยู่ร่วมกับอุตสาหกรรมได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย BCG Model (Bio Circular Green Economy) ของกระทรวงอุตสาหกรรมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม การหมุนเวียนทรัพยากร และการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายจุลพงษ์ฯ กล่าวต่อว่า ปี 2566 กรอ. ได้เดินหน้าประกาศพื้นที่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระยะที่ 3 ใน 21 พื้นที่ใหม่ 20 จังหวัดใหม่ หลังประสบความสำเร็จในการดำเนินการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระยะที่ 1 และ 2 รวมเป้าหมายการพัฒนาทั้ง 3 ระยะ 54 พื้นที่ 39 จังหวัด ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ มีพื้นที่ที่ผ่านเกณฑ์การพัฒนาระดับที่ 4 (การพึ่งพาอาศัย) 4 พื้นที่ ระดับที่ 3 (ประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร) 14 ที่เหลืออีก 36 พื้นที่อยู่ในขั้นตอนการเตรียมความพร้อมเพื่อพัฒนาเข้าสู่ระดับการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศต่อไป
สำหรับผลงานในปี 2565 เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เป็นแหล่งสร้างความสำเร็จในการสร้างงาน สร้างอาชีพ คิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกคิดเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ ยกระดับรายได้และพัฒนาความเป็นอยู่ของกลุ่มชาวบ้าน กลุ่มแม่บ้านหรือวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่กว่า 400 กลุ่ม มุ่งสู่ความสำเร็จ 4 มิติของกระทรวงอุตสาหกรรม ครอบคลุมความสำเร็จทางธุรกิจ การดูแลสังคม สิ่งแวดล้อม และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน”
“กรอ.ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอย่างต่อเนื่อง ใน 54 พื้นที่ 39 จังหวัด โดยการจัดทำแผนปฏิบัติการการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เพื่อมุ่งเป้าสู่ระดับที่ 5 ภายในปี 2580 เพื่อเป็นกรอบและทิศทางสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาชนและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ อีกทั้งสนับสนุนให้โรงงานอุตสาหกรรมดำเนินงานเชื่อมโยงกับ BCG Model ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมสีเขียว (GI : Green Industry) โรงงานอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน (CSR-DIW) เพื่อเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็น ‘เมืองน่าอยู่ คู่อุตสาหกรรม’ อย่างยั่งยืนต่อไป” นายจุลพงษ์ กล่าวปิดท้าย