สศค.แจงเศรษฐกิจ ม.ค.65 ขยายตัวต่อเนื่อง ย้ำ! ภาพรวมไทยยังแกร่ง

ทีมโฆษก สศค. แถลงยืนยันเศรษฐกิจไทยช่วง ม.ค.65 ยังขยายตัวต่อเนื่อง เหตุจากปัจจัยการลงทุนของเอกชน และภาพรวมการท่องเที่ยวจากคนไทยและต่างชาติดีขึ้น ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนมีสัญญาณชะลอลง จากปมวิตกจริตโควิด-โอไมครอน ย้ำ! สัดส่วนหนี้สาธารณะยังต่ำกว่า 60% จีดีพี แถมฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศยังมีสูงถึง 242.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) นำโดย นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง พร้อมด้วย นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค แถลงภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมกราคม 2565 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคม 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งนักท่องเที่ยวต่างประเทศและในประเทศ ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนมีสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้

โดย เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ชะลอลง
เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
โดยการ จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนมกราคม 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 17.4 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ภายหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ -9.3 ขณะที่ การบริโภคสินค้าคงทน  สะท้อนจากปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 7.2 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ -9.9 สำหรับ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 44.8 จากระดับ 46.2 ในเดือนธันวาคม 2564 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ Omicron ที่เริ่มมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง ในเดือนมกราคม 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 45.1 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลขยายตัวร้อยละ 14.3  และรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนมกราคม 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 3.8 จากเดือนธันวาคม 2564 ที่ลดลงร้อยละ -4.4

ขณะที่ เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดย การลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ในเดือนมกราคม 2565 กลับมาขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 17.9 ต่อปี และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 18.0  สำหรับ การลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนมกราคม 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 2.6 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 2.5 ขณะที่ ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ ขยายตัวที่ร้อยละ 3.9 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -2.4

ด้าน เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดย ภาคเกษตร สะท้อนจาก ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนมกราคม 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 3.1 จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ เช่น อ้อยโรงงาน ปาล์มน้ำมัน และไก่เนื้อ เป็นต้น สำหรับ ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนมกราคม 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 88.0 จากระดับ 86.8  ในเดือนก่อนหน้า และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ

แฟ้มภาพ

สำหรับ ด้านบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนมกราคม 2565 มี นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประเภทพิเศษ นักท่องเที่ยวกลุ่มสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) นักธุรกิจ กลุ่มสุขภาพที่เข้ามารับบริการทางการแพทย์ในประเทศไทยรวม จำนวน 133,903 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย เยอรมนี
สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนมกราคม 2565 จำนวน 15.43 ล้านคน หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 127.2 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 15.5

ทางด้าน เสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศ ยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้มีปัจจัยกดดันจากระดับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นสะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคม 2565 อยู่ที่ร้อยละ 3.23 ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน อยู่ที่ร้อยละ 0.52 ส่วนสัดส่วน หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 อยู่ที่ร้อยละ 59.6 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 สำหรับ เสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2565 อยู่ในระดับสูง
ที่ 242.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password