ก.อุตฯ ปลื้มตลาดอีวีแรง สะท้อนยอดจองงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ถึง 9,234 คัน
ก.อุตสาหกรรม ปลื้มกระแสตอบรับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศมาแรง ดันยอดจองรถยนต์ไฟฟ้า ภายในงาน มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 รวม 9,234 คัน ย้ำ ก.อุตฯ สนับสนุนเต็มกำลัง ชี้ไทยเนื้อหอม ยักษ์ใหญ่รถยนต์อีวีจีนเตรียมลงทุนเพิ่ม
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ที่ปิดฉากลง(จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม – 2 เมษายน 2566) ว่า บรรดาค่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์มาร่วมออกบูธกว่า 40 ค่าย มีผู้เข้าชมงาน 1,620,459 คน และมียอดจองรถยนต์ภายในงานรวมทั้งสิ้น 42,885 คัน เติบโตขึ้น 34.45% เมื่อเทียบจากปี 2565 ที่ผ่านมา
โดยในจำนวนยอดจองล่าสุดของปีนี้ เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) หรือรถยนต์อีวี อยู่ที่ 9,234 คัน คิดเป็น 21.53% จากยอดจองรถยนต์ทั้งหมดภายในงาน ซึ่งการที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นส่วนหนึ่งมาจากมาตรการอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐทำให้มีราคาลดลง ผู้บริโภคเริ่มให้ความเชื่อมั่นในมาตรฐานมากขึ้น ประกอบกับค่ายรถยนต์ต่าง ๆ มีการเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ที่หลากหลาย รวมถึงแคมเปญกระตุ้นยอดขายที่น่าสนใจ
ปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรมได้สนับสนุนปัจจัยแวดล้อมให้เอื้อต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญ ได้แก่ การจัดทำมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าครอบคลุมทั้งรถยนต์ รถกระบะ รถโดยสาร รถบรรทุก รถจักรยานยนต์ รถสามล้อ แบตเตอรี่ และสถานีอัดประจุ รวมทั้งสิ้น 128 มาตรฐาน และมีการพัฒนาศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ หรือ ศูนย์ทดสอบ ATTRIC แห่งแรกในภูมิภาค ASEAN ณ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อการยกระดับมาตรฐานและการวิจัยพัฒนาทดสอบสมรรถนะยานยนต์และชิ้นส่วนต้นแบบ การทดสอบยางล้อ และศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า การพัฒนานวัตกรรมแบตเตอรี่ที่ใช้วัตถุดิบในประเทศไทยเป็นส่วนประกอบมากขึ้น
รวมทั้งจัดทำ Eco Sticker หรือป้ายแสดงข้อมูลของรถยนต์ตามมาตรฐานสากล โดยข้อมูลในป้ายจะบ่งบอกคุณลักษณะที่สำคัญของรถยนต์ 5 ส่วน ได้แก่ สมรรถนะรถยนต์ ข้อมูลพื้นฐานของรถยนต์ ข้อมูลผู้ผลิต/นำเข้า รายการอุปกรณ์ที่ติดตั้งจากโรงงาน และราคาขายปลีก เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบข้อมูลของรถยนต์แต่ละรุ่นได้ โดยพิจารณาจากสมรรถนะในด้าน “สะอาด ประหยัด และปลอดภัย” ทั้งนี้ข้อมูล ณ วันที่ 25 มีนาคม 2566 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมมีการพิจารณาออกใบ Eco Sticker สำหรับรถยนต์ ไปแล้ว 17,136 ใบ
นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ยังได้หารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในการกำหนดวิสัยทัศน์ให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของภูมิภาค โดยกำหนดเป้าหมายในปี 2573 การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศรวม 725,000 คันต่อปี คิดเป็นร้อยละ 30 ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านบาท
“ในปี 2566 นี้ ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยคึกคักมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ จากสภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มจะกลับมาเติบโต โดยเฉพาะกับตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถยนต์อีวี ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดมากกว่าปีที่ผ่านมา จากกระแสความสนใจของผู้บริโภคที่ให้การยอมรับและมีความเชื่อมั่นในรถยนต์อีวีมากขึ้น ประกอบกับภาครัฐให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องทำให้ราคาสามารถเข้าถึงได้ง่าย ส่งผลให้เกิดการลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สะอาด ประหยัด และปลอดภัย ซึ่งตลาดรถยนต์อีวีในไทยยังเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน ล่าสุดผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน GAC AION ได้ให้ความสนใจจะเข้ามาลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์อีวีในประเทศไทย โดยตั้งเป้าผลิตรถยนต์ EV ในไทยให้ได้ 100,000 คันต่อปี และยังวางแผนขยายไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในการผลิตแบตเตอรี่ด้วย” ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว