EXIM BANK ยืดระยะเวลาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ถึง 17 เม.ย. นี้
EXIM BANK ตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นของขวัญปีใหม่ไทยแก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs โดยมีกำหนดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าทั่วไปและ SMEs เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR ของธนาคารพาณิชย์ จาก 6.00% ต่อปี เป็น 6.25% ต่อปี ซึ่งยังคงเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2566 เป็นต้นไป
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ EXIM BANK มีภารกิจขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ยังตอกย้ำจุดยืน “EXIM BANK กล้า พัฒนาเพื่อคนไทย” ขอตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ Prime Rate (อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ EXIM BANK ใช้สำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้า SMEs เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีหรือ MRR ของธนาคารพาณิชย์) ในอัตรา 6.00% ต่อปี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไทยในเทศกาลสงกรานต์นี้ให้แก่ผู้ประกอบการไทย แม้หลายสถาบันการเงินจะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดจาก 1.50% ต่อปี เป็น 1.75% ต่อปี เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทย รวมถึง SMEs ไทยได้มีเวลาปรับตัวและบริหารจัดการต้นทุนเพื่อรับมือกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินงานของ EXIM BANK สอดคล้องกับทิศทางของเศรษฐกิจและแนวโน้มเงินเฟ้อ และเพื่อสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะช่วยให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ EXIM BANK จึงประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Prime Rate 0.25% ต่อปี จาก 6.00% ต่อปี เป็น 6.25% ต่อปี ซึ่งยังคงเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2566 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านภาระดอกเบี้ยเงินกู้ของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นคนตัวเล็กในโลกธุรกิจ EXIM BANK ยังมีมาตรการช่วยเหลือและโปรโมชันพิเศษอย่างต่อเนื่อง พร้อมบริการ “3 เติม” ได้แก่ การเติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถปรับตัวอยู่รอด เข้าถึงโอกาสและแหล่งเงินทุน เพื่อเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจเชื่อมโยงกับ Supply Chain การส่งออก เติบโตในตลาดการค้าโลกยุคใหม่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ท่ามกลางปัจจัยท้าทายของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง
“EXIM BANK มีนโยบายเป็น Lead Bank ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยให้ปรับตัวรับมือและเติบโตได้อย่างมั่นคงในเวทีการค้าระหว่างประเทศ เราจึงชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไปอีก 2 สัปดาห์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการได้มีเวลาบริหารจัดการต้นทุนและเตรียมปรับตัวรับมือกับทิศทางเศรษฐกิจและภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น โดยลูกค้าผู้ประกอบการสามารถขอรับคำปรึกษาหรือโปรโมชันพิเศษสำหรับเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกจาก EXIM BANK ได้ เพื่อให้ธุรกิจของคนไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในเวทีการค้าโลก” ดร.รักษ์ กล่าว