คต.นำบุก! ตลาด ตอ./กลาง ถึงถิ่นซาอุฯ อวดโฉมข้าวไทย ตอกย้ำ! คุณภาพมาตรฐานสูง

กรมการค้าต่างประเทศ จัดกิจกรรมส่งเสริม-พีอาร์ข้าวไทย เผย! เข้าร่วมปีแรก งานแสดงสินค้า FOODEX SAUDI 2025 ที่เมืองเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย โชว์ความหลากหลายของข้าวไทย ตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ดีและความโดดเด่น ทั้งด้านคุณภาพมาตรฐาน พร้อมสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับข้าวคุณลักษณะพิเศษของไทย หวังดึงดูดให้ผู้บริโภครู้จักและต้องการบริโภคมากขึ้น

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายของ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ บุกตลาดใหม่ โดยให้เร่งขยายตลาดข้าวไปยังตลาดที่มีความต้องการและมีศักยภาพ โดยเฉพาะ ภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่น อิรัก และซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็น ตลาดศักยภาพที่ไทยจะสามารถขยายปริมาณการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น โดยกรมฯ ได้ จัดคณะผู้แทนฯ เข้าร่วมงานแสดงสินค้า FOODEX SAUDI 2025 ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 3 – 6 พฤศจิกายน 2568 ณ Jeddah Center for Exhibitions and Events เมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็น งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติที่สำคัญที่สุดงานหนึ่งของซาอุดีอาระเบีย และจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นเวทีให้ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลกได้มาพบปะ เจรจาธุรกิจ และสร้างเครือข่ายทางการค้า ขยายโอกาสสู่ตลาดซาอุดีอาระเบียและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง

ในปีนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ กรมฯ ได้เข้าร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในงานดังกล่าว โดยภายในคูหาของกรมฯ ได้ จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับความหลากหลายของข้าวไทยควบคู่กับเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย การจัดแสดงตัวอย่างข้าวไทยชนิดต่างๆ เช่น ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวนึ่ง ข้าวขาว ข้าวเหนียว ข้าวเพื่อสุขภาพและข้าวคุณลักษณะพิเศษที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสังข์หยด และข้าวหอมนิล ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
พร้อมตอบข้อซักถามจากผู้เข้าชมคูหา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากทั้ง ผู้บริโภค ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้จัดจำหน่าย และผู้นำเข้าขาว ตลอดจน ผู้เข้าชมจากนานาประเทศ โดยมี ผู้เยี่ยมชมคูหาข้าวไทยกว่า 1,000 คน จากประเทศต่าง ๆ อาทิ ซาอุดีอาระเบีย อินเดีย บังกลาเทศ ญี่ปุ่น จีน ซูดาน ไนจีเรีย และเซเนกัล ตลอดระยะเวลาการจัดงานทั้ง 4 วัน โดยผู้เข้าร่วมงานให้ความสนใจและชื่นชอบในข้าวคุณลักษณะพิเศษต่างๆ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล และข้าวสังข์หยด ที่มีสีสันแปลกตาและโดดเด่น ซึ่ง ผู้แทนกรมฯ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้าวคุณลักษณะพิเศษดังกล่าวว่าเป็นข้าวที่มีสีสันสวยงามตามธรรมชาติ อีกทั้ง ยังโดดเด่นด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง อาทิ แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) และ โพลีฟีนอล (Polyphenol) ในปริมาณที่มากกว่าข้าวขาวทั่วไป

นอกจากนี้ ข้าวเหล่านี้ยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร วิตามินบี และธาตุเหล็ก ซึ่งช่วยในการบำรุงโลหิตและดีต่อระบบขับถ่าย คุณสมบัติเหล่านี้จึงสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ซาอุดีอาระเบีย เป็นประเทศที่ บริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก แต่ไม่สามารถผลิตข้าวในประเทศได้ จึงต้องการ พึ่งพาการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศทั้งหมด โดยส่วนใหญ่ นิยมบริโภคข้าวบาสมาติจากอินเดีย ซึ่งในแต่ละปี ซาอุดีอาระเบียมีความต้องการบริโภคข้าวภายในประเทศประมาณ 1.7 ล้านตัน นำเข้าจากต่างประเทศประมาณ 1.8 ล้านตัน/ปี โดยแนวโน้มความต้องการบริโภคข้าวของซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้น เนื่องจากจำนวนแรงงานและนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในแต่ละปี
สำหรับ การส่งออกข้าวไทยไปซาอุดีอาระเบีย แต่ละปีไทยส่งออกข้าวไปซาอุดีอาระเบียประมาณ 14,000 – 30,000 ตัน/ปี คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดข้าวในซาอุดีอาระเบียร้อยละ 12 รองจากประเทศอินเดีย สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และเวียดนาม ซึ่งส่วนใหญ่ ส่งออกเป็นข้าวหอมมะลิไทยร้อยละ 40 รองลงมา ได้แก่ ข้าวนึ่งร้อยละ 25 และข้าวหอมไทยร้อยละ 20
โดยการเข้าร่วม งาน FOODEX SAUDI 2025 จึงถือเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และความโดดเด่นของข้าวไทยให้ผู้นำเข้าข้าวรับรู้ในความหลากหลายและเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งจะช่วย กระตุ้นความต้องการข้าวไทยและขยายส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในซาอุดีอาระเบียและภูมิภาคตะวันออกกลางให้เพิ่มขึ้น.









