กรอ.รับลูก นโยบาย “ปลัดปั้น” จับมือ กนอ. สอจ.ทั่วประเทศ ป้องกันอัคคีภัยในโรงงานเสี่ยงสูง

ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า อัคคีภัยในโรงงานเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะโรงงานที่มีความเสี่ยงสูง อาทิ โรงงานลำดับที่ 39,40 ผลิตภัณฑ์กระดาษ โรงงานลำดับที่ 53(4)(5)(7) ผลิตภัณฑ์พลาสติก และโรงงานลำดับที่ 42 เคมีภัณฑ์ สารเคมี และปิโตรเคมี สร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน สิ่งแวดล้อม และความเชื่อมั่นของสังคม จึงสั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ปรับเปลี่ยนการทำงานจาก “ตั้งรับ” เป็น “การรุก” เร่งเสริมสร้างความปลอดภัยในโรงงานเสี่ยงสูง และพัฒนากระบวนการทำงานอย่างบูรณาการ ครอบคลุมทั้งด้านเทคโนโลยี การกำกับดูแล การสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ
ดร.ณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุเพลิงไหม้หลายครั้งเกิดจาก “การละเลยเล็กน้อย” ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าที่ไม่สม่ำเสมอ การจัดเก็บวัตถุไวไฟไม่เป็นมาตรฐาน ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน สิ่งเหล่านี้สามารถป้องกันได้ หากผู้ประกอบกิจการให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด

ด้าน นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรอ. ขานรับข้อสั่งการปลัดปั้น ส่งเสริม การทำงานแบบบูรณาการครอบคลุมในทุกมิติ จาก “ตั้งรับ” เป็น “การรุก” โดยนำข้อมูลการเกิดอัคคีภัยในโรงงานที่มีความเสี่ยงสูงมาวิเคราะห์และถอดบทเรียน เพื่อจัดทำเป็นแนวปฏิบัติในการป้องกันอัคคีภัย และข้อกำหนดเพื่อความปลอดภัย (Safety Guideline) ด้านอัคคีภัย ที่นำไปใช้ได้จริง เน้น 4 มาตรการสำคัญ คือ 1) การจัดการระบบไฟฟ้าอย่างปลอดภัย – ตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ติดตั้งสายดิน หม้อแปลง และอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่าให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ลดความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจร

2) ระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย – จัดให้มีอุปกรณ์แจ้งเหตุเพลิงไหม้ ระบบน้ำดับเพลิงหรือระบบดับเพลิงอัตโนมัติ รวมถึงเส้นทางหนีไฟที่เพียงพอตามมาตรฐาน และฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินเป็นประจำ 3) การจัดเก็บวัตถุไวไฟและสารเคมีอันตราย – ต้องแยกเก็บเป็นสัดส่วน มีระบบระบายอากาศไม่ปะปนกับสารที่เข้ากันไม่ได้ ติดตั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติ และมีอุปกรณ์ความปลอดภัยพร้อมใช้
และ 4) การควบคุมงานที่ก่อให้เกิดความร้อนหรือประกายไฟ เช่น การเชื่อม ตัด เจียร ต้องอยู่ภายใต้การอนุญาต (Work Permit) และมีมาตรการควบคุมสะเก็ดไฟไม่ให้กระทบวัสดุติดไฟได้ง่าย

กรอ. ยังได้ร่วมมือกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) ทั่วประเทศ เพื่อกำกับ ติดตาม และสนับสนุนผู้ประกอบกิจการให้สามารถดำเนิน 4 มาตรการได้อย่างเคร่งครัด เสริมสร้างการทำงานเชิงรุกด้านความปลอดภัย ควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยี และการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยก้าวสู่ยุคใหม่ที่ แข็งแกร่ง มั่นคง และยั่งยืน เพราะ “ความปลอดภัยไม่ใช่ภาระทางกฎหมาย แต่เป็นฐานรากของความยั่งยืนของธุรกิจ” นายพรยศ กล่าวทิ้งท้าย